คืบหน้าปมสังหารโหด!คาดเพื่อนสนิทลวงมาสังหารโหดจากสาเหตุลับบางประการ

คืบหน้าปมสังหารโหด!คาดเพื่อนสนิทลวงมาสังหารโหดจากสาเหตุลับบางประการ

                           คืบหน้าข่าว... ! #ความเชื่อมโยงของเหตุฆาตกรรม 29/04/2561 >>> สภ.อุบลรัตน์ ขอนแก่นได้รับแจ้งพบศพชายถูกฆ่าปาดคอทิ้งศพขึ้นอืดในป่าท้ายบ้านขุนด่าน ตำบลบ้านดง อำเภออุบลรัตน์ฯ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตในเวลาต่อมาคือ นายสุทัด หรือท้าวสุทัด ทัดจันดา อายุ49ปี เป็นคนลาวมีภรรยาเป็นคนไทย ประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้างและปล่อยเงินกู้รายวันในพื้นที่อำเภอน้ำพองและใกล้เคียง มีบ้านพักอยู่บ้านนาศรีดงเค็ง ตำบลสะอาด อำเภอน้ำพอง ขอนแก่น คนในพื้นที่รู้จักกันดี ! เป็นขาใหญ่ในพื้นที่... คาดว่าถูกเพื่อนสนิทลวงมาสังหารโหดจากสาเหตุลับบางประการ..... และในวันเดียวกัน สภ.เขาสวนกวาง ขอนแก่น ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านดงเย็น หมู่ที่6 ตำบลนางิ่ว อำเภอเขาสวนกวางฯ พบรถยนต์ถูกเผาเหลือแต่ซาก บริเวณด้านทิศใต้ของวัดป่านันทวงษ์ บ้านดงเย็น จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าเป็นรถปิ๊กอัพ อีซูซุ สีขาว 4ประตู ไม่พบแผ่นป้ายทะเบียนในที่เกิดเหตุ และทราบทะเบียนในเวลาต่อมา หมายเลข กม-9329 ซึ่งเป็นรถของผู้เสียชีวิตที่ถูกฆ่าปาดคอในพื้นที่ อำเภออุบลรัตน์ นั่นเอง... จากคำให้การของภรรยาผู้เสียชีวิตทราบว่า วันที่ 26เมษายน2561 ที่ผ่านมา มีเพื่อนโทรมาชวนผู้ตายไปหาปลาในเขื่อนอุบลรัตน์ หลังจากนั้นผู้ตายก็ไม่ได้เข้าบ้านอีกเลยจนมาทราบอีกทีว่าถูกฆ่าตายตามที่เป็นข่าวไป... ส่วนแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องทราบว่า ได้เบาะแสจากโทรศัพท์ของผู้เสียชีวิตตามคำให้การของภรรยา เจ้าหน้าที่แกะรอยจากการสนทนาทางโทรศัพท์จนทราบตัวผู้ต้องสงสัยแล้วและถูกควบคุมตัวมาสอบเครียด ว่าเกี่ยวข้องกับการตายของ ท้าวสุทัด หนุ่มใหญ่ชาวลาวปล่อยเงินกู้หรือไม่ ? อีกไม่นานคงต้องรู้.....
ภาพ/ข่าว : ศูนย์ข่าวอุบลรัตน์ ขอนแก่น 30/04/2561 >>>
.................... ........ ........ ........ .....................
เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.สยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมใจประชาชน)

กอ.รมน.จังหวัดขอนแก่น ร่วมชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น (ชุดพยัคฆ์) จับกุมแก๊งลักรถจักรยานยนต์ ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน ได้ผู้ต้องหา และของกลางเพียบ

กอ.รมน.จังหวัดขอนแก่น ร่วมชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น (ชุดพยัคฆ์) จับกุมแก๊งลักรถจักรยานยนต์ ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน ได้ผู้ต้องหา และของกลางเพียบ


ภายใต้การอานวยการของ พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.๔ , พลตรี กาจบดินทร์
ยิ่งดอน
รองผอ.รมน.จังหวัดขอนแก่น พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รอง ผบช.ภ.๔ พล.ต.ต.พรหมณัฏฐเขต ฮามคาไพ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น , พล.ต.อัครเดช บุญเทียม ผบ.มทบ..23 , นายฉัตรชัย อุ่นเจริญ นายอำเภอเมืองขอนแก่น , พ.ต.อ.นพดล เพ็ชรสุทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น , พ.ต.อ.จาลอง สุวลักษณ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ,
พ.อ.พิทักษ์พล ชูศรีหน.กกล.รส.จว.ขอนแก่น
หัวหน้าชุดจับกุม พ.ต.ท.เอกลักษณ์ บุญแสงเจริญ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองขอนแก่น , พ.ต.ท.วิษณุ จันทรพล สว.สส.สภ.เมืองขอนแก่น , พ.ต.ต.วงศกร วันชัย สว.สส.สภ.เมืองขอนแก่น , ร.ต.อ.ณัฐดนัย สีแข่ไตร , ร.ต.ท.จักรกฤต พ่อชมภู , พร้อมเจ้าหน้าที่ชุด สืบสวน.สภ.เมืองขอนแก่น
วันเดือนปีที่จับกุม วันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๖๑
สถานที่เกิดเหตุ คนร้ายก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ตามลานจอดรถ,หอพัก,ห้างสรรพสินค้า ในเขต ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น ได้ร่วมกันจับกุมตัว
                        
๑.นายวีรภัทรหรือคิงส์ ผิวเหลือง อายุ ๓๒ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๔๘/๓ ม.๑ ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น ๒.นายเกรียงไกรหรือเบิ้ม ในจิตร อายุ ๔๖ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๒๔/๓ ม.๔ ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น ๓.นายทรงวุฒิหรือเอ๊ะ สมแพง อายุ ๓๓ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๓๓๔ ม.๘ ต.พระลับ อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น ๔. นางหนูภาพ สอนอ่อน อายุ ๕๐ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๒๓๒ ม.๒ ต.นาซ่าว อ.เชียงคาน จ.เลย
๕. นายสนธยา แพงร้อย อายุ ๓๐ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๕๖/๑ ม.๓ ต.นาซ่าว อ.เชียงคาน จ.เลย
๖. นายพลวัฒน์ พลสุพี อายุ ๒๓ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๒๔๓ ม.๖ ต.วังปลาป้อม อ.นาวัง จ.หนองบัวลาภู ในข้อหา“ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกในการพาทรัพย์นั้นไปหรือรับของโจร”
พฤติการณ์ในการจับกุม ในห้วงปี ๒๕๖๑ เป็นต้นมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ได้รับแจ้งเหตุ รถจักรยานยนต์ หายในพื้นที่ ต.ในเมืองขอนแก่น อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น เป็นจานวนมาก จึงได้ทาการวิเคราะห์ พฤติการณ์การก่อเหตุ ของคนร้ายจนกระทั่ง ทราบว่าคนร้ายมักจะขับขี่รถจักรยานยนต์ตระเวน ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ตามลานจอดรถ หรือหอพัก ที่มีรถจอดอยู่จานวนมาก จากนั้นจะทำการตรวจสอบว่ามีรถจักรยานยนต์คันใดได้เสียบกุญแจทิ้งไว้ที่รถ หรือไม่ หากมีการเสียบกุญแจทิ้งไว้ จะทำการ ขับขี่ออกมาทันที หากไม่ได้เสียบกุญแจทิ้งไว้ จะทำการตรวจสอบหารถที่ไม่ได้ล็อคคอ รถ เมื่อพบรถเป้าหมาย คนร้าย ๑ คน จะทำการเข็นรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวออกมาจากจุดที่จอด เมื่อมาถึงจุดนัดหมาย คนร้ายที่เข็นรถจักรยานยนต์ออกมา จะขึ้นไปนั่งคร่อมบนรถ รอคนร้ายคนที่ ๒ ที่จะทำการขับขี่รถจักรยานยนต์ของตนเอง มาทำการใช้เท้าซ้ายถีบบริเวณท่อไอเสีย หรือที่พักเท้าของรถคันที่คนร้ายคนที่ ๑ ที่นั่งคร่อมรถรออยู่ เมื่อรถทั้งสองคันเคลื่อน ตัวได้ ทั้งคู่จะขับขี่หลบหนีไปตามเส้นทางที่เปลี่ยวปลอดผู้คน โดยมักจะมุ่งหน้าไปยัง เขต ต.เมืองเก่า นั้น
เมื่อวันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๖๑ ชุดสืบสวนได้ทำการสืบทราบมาว่า คนร้ายได้ลักเอารถจักรยานยนต์ไปเก็บไว้ ที่ บ้านพักแห่งหนึ่ง ในชุมชนการเคหะ ต.เมืองเก่า อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น จึงได้นำกำลังไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบ นาง หนูภาพฯ , นายสนธาฯ , นายพลวัฒน์ฯ กาลังขนย้ายรถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้าย ขึ้นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซู ทะเบียน บพ ๗๑๔ เลย ของนางหนูภาพฯ เจ้าหน้าที่ตารวจจึงได้ทำการตรวจสอบ ปรากฏว่า รถจักรยานยนต์ที่กำลังขนย้ายนั้น เป็น รถที่ถูกลักมา จริง จึงได้ทำการจับกุมตัว นางหนูภาพฯ , นายสนธยาฯ , นายพลวัฒน์ฯ ส่งพนักงานสอบสวน ทั้ง ๓ คนให้ การรับสารภาพ ว่า นางหนูภาพฯ เป็นผู้ติดต่อซื้อรถจักรยานยนต์ทั้งหมดมาจากนายหน้า (อยู่ในระหว่างออกหมายจับ) จากนั้นจะนำรถมาจอดซุกซ่อนไว้ที่บ้านพัก หลังดังกล่าว เมื่อมีรถจักรยานยนต์ครบตามคาสั่งของนายทุน นางหนูภาพฯ จะ ทำการว่าจ้าง วัยรุ่น ที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันมาช่วยขนย้าย หากขนขึ้นรถยนต์ของนางหนูภาพฯ ไม่พอ จะต้องขับขี่ รถจักรยานยนต์ที่เหลือ ไปยัง บ้านของนางหนูภาพ ที่ อ.เชียงคาน จ.เลย อีกด้วย โดยได้รับค่าจ้างครั้งละ ๕๐๐ บาท ซึ่งจะมี นายทุน (อยู่ในระหว่างออกหมายจับ) ที่อยู่ ต.ปากคาด อ.เชียงคาน จ.เลย มารอรับรถ ไปขายต่อที่ สปป.ลาว
                        
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเก็บข้อมูลจากผู้ต้องหาทั้ง ๓ คนแล้ว ทำการขยาย ผล จนกระทั่งทราบว่า ผู้ที่ก่อเหตุ ลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ ในเขตพื้นที่ จ.ขอนแก่น แล้วนำมาขายให้นางหนูภาพฯ นั้น คือ กลุ่มของนายเกรียงไกรฯ เจ้าหน้าที่ ตารวจจึงได้ติดตามจับกุม นายเกรียงไกรฯ , นายวีรภัทรฯ และนายทรงวุฒิฯ พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ที่ใช้ขับขี่ไปก่อ เหตุ , ชุดที่สวมใส่ในวันที่ก่อเหตุ , แผ่นป้ายทะเบียนจานวน ๑๐ แผ่น ได้ในวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๖๐ โดยทั้ง ๓ คน ให้การ ว่า กลุ่มของตนจะตระเวน ออกหารถจักรยานยนต์ยี่ห้อ,รุ่น ตามที่นายทุนสั่งการ จากนั้นจะทาการลักโดยใช้วิธีการเข็น รถจักรยานยนต์ออกมา ปรากฏตามรายละเอียดที่กล่าวไปข้างต้น จากนั้น จะไปทำการถอดทะเบียนทิ้ง แล้วนาไปเปลี่ยน กุญแจ และส่งมอบรถให้นายเกรียงไกรฯ นาไปขาย จากนั้นจะนำเงินที่ได้มาแบ่งกัน ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเนื่องจากไม่ได้ ประกอบอาชีพใดๆ ทั้งสามคนให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ในเขตพื้นที่เมืองขอนแก่นมาแล้วกว่า๕๐คัน
จากพฤติการณ์ข้างต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น สามารถจับกุมคนร้ายในกระบวนการได้ ทั้งหมด ๖ คน สามารถตรวจยึดรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ ได้ ๑ คัน รถจักรยานยนต์ที่เกี่ยวข้อง จำนวน ๘ คัน แผ่นป้ายทะเบียนที่ คนร้ายนำไปทิ้ง จำนวน ๑๐ แผ่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว : เจมส์ กอ.รมน.ขอนแก่น
เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.สยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมใจประชาชน)

บุรีรัมย์-ลูกเมียแรงงานไทยไต้หวันเหยื่อเพลิงไหม้วิตกเสียเสาหลักของครอบครัว

บุรีรัมย์-ลูกเมียแรงงานไทยไต้หวันเหยื่อเพลิงไหม้วิตกเสียเสาหลักของครอบครัว

                              แรงงานไทยเหยื่อไฟไหม้โรงงานผลิตแผงวงจรไฟฟ้า ที่ไต้หวัน ลูกๆและภรรยาที่บุรีรัมย์ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เผยเป็นครอบครัวยากจน อยากจะไปหาเงินต่างถิ่นมาจุนเจือ ภรรยาเศร้าสินเสาหลักของครอบครัวต้องแบกหนี้ 2 แสน และลูกอีก 4 คน
วันที่ 30 เม.ย. กรณีการเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่โรงงานชินพูน (CHIN POON INDUSTRIAL) โรงงานผลิตแผงวงจรไฟฟ้า (PCB) รายใหญ่ของโลก ตั้งอยู่ที่เขตผิงเจิ้น เทศบาลพิเศษเถาหยวน ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของไต้หวัน เมื่อเวลา 21.26 น. ในวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา
ทำให้มีตำรวจดับเพลิงเสียชีวิตถึง 5 นาย บาดเจ็บอีก 2 นาย และมีแรงงานไทยเสียชีวิต 2 ราย ซึ่งหนึ่งในสองรายคือนายเทิดศักดิ์ บุรัมสูงเนิน อายุ 42 ปี ชาวบ้านไม้แดง หมู่ 3 ต.ชุมแสง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์
จากการตรวจสอบบ้านพักผู้เสียชีวิตที่ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เป็นบ้านไม้สองชั้นยกสูง สภาพเก่า มีชาวบ้านมาให้กำลังใจครอบครัวนายเทิดศักดิ์ เป็นจำนวนมาก เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน
น.ส.จันทา หวังอยู่ อายุ 42 ปี ภรรยานายเทิดศักดิ์ บอกว่า สามีไปเดินทางไปทำงานเมื่อเดือนธันวาคม 60 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเดินทางไปเป็นครั้งที่ 2 สาเหตุที่ไปทำงานไต้หวัน เพราะมีคนชวนไปทำ โดยผ่านบริษัทจัดหางานถูกต้อง มีค่าใช้จ่ายประมาณ 70,000 บาท
หลังจากกลับมาครั้งแรกใช้หนี้ค่าเดินทางได้ และซื้อรถไถเดินตามได้ 1 คัน แต่ยังไม่มีเงินเก็บ จึงอยากจะไปทำงานอีกรอบ เพื่อหวังจะมีเงินใช้หนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์(ธกส.)ซึ่งมีหนี้อยู่กว่า 200,000 บาทแต่ไม่คิดว่าไปครั้งนี้สามีจะจากไปตลอดกาล
ตอนนี้ถือว่าขาดเสาหลักของครอบครัว โดยเฉพาะต้องเลี้ยงดูลูกอีก 4 คน ตอนนี้อยากให้ทางการช่วยเหลือนำศพกลับมาฌาปนกิจในเมืองไทย และช่วยดำเนินการเกี่ยวกับสวัสดิการต่างๆของแรงงานไทย เพราะครอบครัวไม่มีความรู้
ด้านนางเอียม โสรักนิด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 บอกว่าปกติครอบครัวนี้เป็นคนขยันทำมาหากิน มีที่นา 2 ไร่ ส่วนใหญ่จะออกไปรับจ้างทั่วไปในช่วงหลังฤดูทำนา แต่ก็ขัดสน จึงหาวิธีไปทำงานต่างประเทศ เพราะคิดว่าน่าจะได้เงินมากกว่าทำงานในเมืองไทย อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะให้ความช่วยเหลือด้านการประสานงานกับหน่วยงานรัฐ เพื่อนำศพกลับเมืองไทย
ภาพ / ข่าว ธีรยุทธ์ ชำนาญกอง / วันชัย ผิวอร่าม จ.บุรีรัมย์
เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.สยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมใจประชาชน)

"พรรคไทยธรรม" พรรคการเมืองคนรุ่นใหม่ หัวใจประชาธิปไตย เพื่อประชาชน

"พรรคไทยธรรม" พรรคการเมืองคนรุ่นใหม่ หัวใจประชาธิปไตย เพื่อประชาชน




👉กลุ่มหมอ-นักวิชาการในชื่อกลุ่ม”พรรคไทยธรรม” พรรคการเมืองของคนรุ่นใหม่หัวใจประชาธิปไตย เดินหน้าการจัดตั้งพรรคเพื่อให้ทันต่อโรดแมปการเลือกตั้งตามที่รัฐบาลกำหนด -27/4/18 เวลา 15.00น. ท่านนายแพทย์กิติกร วิชัยเรืองธรรม รองหัวหน้าพรรคไทยธรรม และ นายอรุณชัย ยะพันธ์ชัย นายทะเบียนสมาชิกพรรคไทยธรรม ได้เดินทางเข้ารับหนังสืออนุมัติให้ดำเนินกิจกรรมทางการเมือง จากกองเลขาฯคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก และ หนังสือรับแจ้งการจัดตั้งพรรคการเมือง (พ.ก.7/2) จากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกรียติแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นหลักฐานใช้ในการประกอบยื่นจัดตั้งพรรคการเมือง โดยในโอกาสเดียวกันได้ร่วมหารือกับ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมพรรคการเมือง ประจำสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถึงประเด็นต่างๆ โดยสาระสำคัญคือการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการลงคะแนนเสียง แนวทางการวางกรอบนโยบายต่างๆเพื่อไม่ให้ขัดต่อข้อกฎหมายในการจัดตั้งพรรคการเมือง โดยพรรคไทยธรรมมุ่งหวังให้การดำเนินจัดตั้งพรรคของคนรุ่นใหม่ให้ทันตามกรอบเวลาที่กำหนด เพื่อพร้อมเข้าสู่สนามการเลือกตั้งใหญ่ที่ทางรัฐบาลวางโรดแมปไว้ ภายใต้สโลแกนพรรค “คุณภาพ คุณธรรม นำสังคมไทย” ต่างกายแต่หัวใจเดียวกัน หัวใจเพื่อประชาธิปไตย
เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.สยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมใจประชาชน)

ตามยึดอายัดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด ให้ตกเป็นของแผ่นดิน...

ตามยึดอายัดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด ให้ตกเป็นของแผ่นดิน...

วันนี้ (26 เม.ย.61) เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบช.ภ.3,พล.ต.ต.สุรพล แก้วขาว รอง ผบช.ภ.3,พล.ต.ต.บุญจันทร์ นวลสาย รอง ผบช.ภ.3,พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รอง ผบช.ภ.3,พล.ต.ต.สุภากร คำสิงห์นอก ผบก.สส.ภ.3 ,พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา,ตัวแทนจาก ปปง.ร่วมแถลงข่าว การยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำผิด ตามมาตรา 3(1) และมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ของ น.ส.นวพร จันทรรัศมี กับพวกรวม 4 คน ซึ่งศาลได้อนุมัติหมายจับ ในความผิดฐานสมคบและสนับสนุนฯ ตามพรบ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 และความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ในการแถลงข่าวครั้งนี้ ตำรวจภูธร3 และตัวแทนจากสำนักงาน ปปง ได้จัดให้มีการยึดและส่งมอบทรัพย์สินที่ยึดตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ จำนวน 82 รายการ มูลค่า 50,000,000 บาท และเดินทางไปอายัดบ้านจำนวน 3 หลัง เพือ่ดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว : ตำรวจโคราช
......... ...... ...... ....... ......
เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.สยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมใจประชาชน)

บุรีรัมย์-หนุ่มใหญ่อ้างเป็น พ.ต.ท ช่วยเคลียร์คดียาเสพติดเรียก 5 หมื่น ตร.ตามรวบถึงบ้าน(มีคลิป)

บุรีรัมย์-หนุ่มใหญ่อ้างเป็น พ.ต.ท ช่วยเคลียร์คดียาเสพติดเรียก 5 หมื่น ตร.ตามรวบถึงบ้าน(มีคลิป)

หนุ่มวัย 35 ปีชาวโคราช อ่านข่าวยาเสพติด ก่อนหาข้อมูลญาติผู้ต้องหาทางโชเชียลแล้วโทรติดต่ออ้างเป็น รองสยาม ชุดปราบยาเสพติดบุรีรัมย์ จะช่วยเรื่องคดีเรียก 5 หมื่น ญาติโอน 3 หมื่นเหลือ 2 หมื่นตามมามอบให้รองสยามถึงโรงพัก สุดท้ายความแตกตามล่ารวบตัวสารภาพอยากได้เงินใช้ทำมาเพียงครั้งเดียว ไม่ปักใจเชื่อ
วันนี้ 28 เม.ย. /พ.ต.ท.ไชยา แก้วยก สารวัตร(สอบสวน)สภ.เมืองบุรีรัมย์ นำตัวนายชนะกันต์ ดาวสันเทียะ อายุ 35 ปี ชาว ต.บ้านกอก อ.เมือง จ.นครราชสีมา มาสอบสวนในคดี”ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่า จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”หลังจากตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดบุรีรัมย์ ตามจับกุมได้ที่บ้านพัก จ.นครราชสีมา
โดย พ.ต.ท.สมยศ พื้นชัยภูมิ หัวหน้าชุดปฏิบัติการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด ได้ติดตามกลุ่มนักค้ายาเสพติด ที่นำยาบ้ามาส่งในเขตพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ และสามารถจับกุมคนร้ายและขยายผลไปล่อซื้อ หลายจังหวัดในเขตภาคอีสาน ได้ของกลางในแต่ละพื้นที่เป็นจำนวนมาก
ต่อมาได้มีญาติผู้ต้องหายาเสพติด มาติดต่อขอพบ พ.ต.ท.สยาม เกียรติบรรจง ชุดขยายผลปราบปรามยาเสพติดภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมกับนำเงินสดมามอบให้จำนวนเงิน 20,000 บาท สร้างความมึนงงให้กับชุดจับกุมเป็นอย่างมาก
จึงนำตัวมาสอบสวนทราบว่า ก่อนหน้านี้ได้โอนเงินให้บุคคลคนหนึ่งไปจำนวนเงิน 30,000 บาท เนื่องจากมีคนโทรศัพท์ไปหาอ้างว่าเป็น”รองหยาม”คือ พ.ต.ท.สยาม เกียรติบรรจง ว่าจะสามารถช่วยเหลือคดียาเสพติดได้ แต่มีค่าใช้จ่าย 50,000 บาท ตกลงจ่ายก่อน 30,000 บาท ที่เหลือให้มาจ่ายอีกที่บุรีรัมย์ จึงนำเงินมาจ่ายให้ตามสัญญา
                          
โดยต่อมา พล.ต.ต.ชัยยุทธ เจียรศิริกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ทราบเรื่องได้สั่งการให้ติดตามคนหลอกให้โอนเงินมาดำเนินคดีให้ได้ เพราะเป็นการสร้างความเสื่อมเสียให้กับวงการตำรวจ กระทั่งสามารถสืบสวนจากข้อมูลจนจับกุมตัวมาได้
ขณะที่นายชนะกันต์ ดาวสันเทียะ ผู้ต้องหาให้การสารภาพว่าเป็นคนโทรศัพท์แอบอ้างเป็นตำรวจจริง พร้อมให้การว่าตนเองเล่นอินเตอร์เน็ตกับโทรศัพท์ ได้เห็นเพจ”แจ้งข่าวชาวบุรีรัมย์”เด้งขึ้นมาเมื่อเข้าไปดูพบมีข่าวสารมากมาย และไปพบว่ามีการจับกุมยาเสพติด
จึงเอาชื่อคนร้ายไปค้นหาข้อมูลญาติผู้ต้องหาและตำรวจทางกูเกิล จนกระทั่งรู้เบอร์โทรศัพท์ของญาติผู้ต้องหา ก่อนจะโทรแอบอ้างว่าเป็นรองหยาม”ว่าสามารถช่วยเหลือทางคดีได้ โดยใช้บัญชีธนาคารของเพื่อนน้องสาว ที่ฝากไว้ให้น้องสาวมานานแล้ว แต่ไม่เคยทำมาก่อนครั้งนี้เป็นครั้งแรก ส่วนเงินที่ได้รับโอนได้เอามามอบให้ตำรวจไว้แล้ว 10,000 บาท ที่เหลือจะใช้คืนให้จนครบจำนวน 50,000 บาทต่อไป ตำรวจคาดเคยทำมาก่อน
อย่างไรก็ตามด้านคดีความตำรวจจะต้องดำเนินไปตามข้อกฎหมาย ตามมาตรา 269/5 “ผู้ใดใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่า จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งจะทำการสอบสวนแล้วฝากขังต่อไป โดยตำรวจไม่ได้คัดค้านการประกันตัวแต่อย่างใด/////////////
ภาพ / ข่าว ธีรยุทธ์ ชำนาญกอง / วันชัย ผิวอร่าม จ.บุรีรัมย์
เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.สยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมใจประชาชน)

"พญาต่อ"ร่วมแสดงความยินดีวันคล้ายวันเกิด ทรงภพ โพธิโรจน์!!เดอะเปี๊ยก!!เจ้าของนามปากกา!!ขุนเวียงวัง!!นสพ.บ้านเมือง

"พญาต่อ"ร่วมแสดงความยินดีวันคล้ายวันเกิด ทรงภพ โพธิโรจน์!!เดอะเปี๊ยก!!เจ้าของนามปากกา!!ขุนเวียงวัง!!นสพ.บ้านเมือง



ร่วมแสดงความยินดีวันคล้ายวันเกิดทรงภพ โพธิโรจน์!!เดอะเปี๊ยก!!เจ้าของนามปากกา!!ขุนเวียงวัง!!นสพ.บ้านเมืองโดยมีพล.ท ไกรเทพ อนุศักดิ์(เสธแอ่น)ผู้ทรงคุณวุฒิ สนง.ปลัดกระทรวงกลาโหม,คอลัมนิสต์ม้าสีหมอก,สุนทร ช่วยตระกูล(Torn 79),นายฐาวสุเหม เลิศสุรสีห์ (พญาต่อ)นายกสมาคมสื่อมวนชน ดิจิทัล/บรรณาธิการ นสพ.เซเว่นเดย์นิวส์/เซเว่นเดย์นิวส์ ออนไลน์/นิวส์สเตชั่นออนไลน์,นายนิธิโรจน์ แก้วรักษ์กมล(คมพญาข่าว)ปธ.บริหารสำนักข่าวสมาคมตำรวจ,นายกริชสุวรรณ ดีสุข(อ๊อฟไซด์)ผอ.สำนักข่าวสมาคมตำรวจ,พ.ต.อ สิทธิชัย ศรีโสภาเจริญรัตน์ ผกก.สน.วังทองหลาง,พ.ต.ท ชลิต โชคอมรพานิช รอง สส.สน.วังทองหลาง,สำนักงานเขตบางขุนเทียน/ คลองเตย/วังทองหลางและสื่อมวนชนหลายแขนงแขกผู้มีเกียรติเพื่อนพ้องน้องพี่มาร่วมอวยพรกันอย่างเนื่องแน่นที่ร้านห้องสมุดย่านซอยมหาดไทยในคืนที่ 25 เม.ย 61 ที่ผ่านมา!!!!!
เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.สยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมใจประชาชน)

สืบสานศาสนา ประเพณีวัฒนธรรม สายสัมพันธ์ ๒ แผ่นดิน ไทย-กัมพูชา สร้างพระมหาธาตุเจดีย์ สองแผ่นดิน (มีคลิป)

สืบสานศาสนา ประเพณีวัฒนธรรม สายสัมพันธ์ ๒ แผ่นดิน ไทย-กัมพูชา สร้างพระมหาธาตุเจดีย์ สองแผ่นดิน (มีคลิป)




ฯพณฯ พระยา วุฒที ใหม่ ที่ปรึกษาสมเด็จอัครมหาปัญญาจักรี เฮง สำริน ประธานรัฐสภา แห่งพระราชอาณาจักรกัมพูชา นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร นายวรศิษย์ พุฒจิบ นายอำเภอเกษตรสมบูรณ์ ร่วมงานพิธีวางศิลาฤกษ์พระมหาธาตุเจดีย์วัดธาตุ หมู่ที่ ๙ ตำบลบ้านเป้า อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ

เมื่อวันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๖๑ เวลา ๐๖.๓๐ น. บริเวณวัดธาตุ หมู่ที่ ๙ ตำบลบ้านเป้า อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ นายวรศิษย์ พุฒจิบ นายอำเภอเกษตรสมบูรณ์ พร้อมกับข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน องค์ปกครองส่วนท้องถิ่นเทศบาลตำบลบ้านเป้า ให้การต้อนรับ ฯพณฯ พระยา วุฒที ใหม่ ที่ปรึกษาสมเด็จอัครมหาปัญญาจักรี เฮง สำริน ประธานรัฐสภา แห่งพระราชอาณาจักรกัมพูชา พร้อมคณะผู้ติดตาม และ นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร และคณะผู้ติดตามเดินทางมาเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์พระมหาธาตุเจดีย์วัดธาตุ หมู่ที่ ๙ ฯพณฯ พระยา วุฒที ใหม่ ฯลฯ , นายอนันต์ ชูโชติ ฯลฯ 


,วัฒนธรรมจังหวัดชัยภูมิ , นายวรศิษย์ พุทธจิบ ฯลฯ, พ.ต.อ.ทักษพงศ์ รื่นกลิ่น ผู้กำกับการ สภ.บ้านเป้า ,รอง.ผู้กำกับการ สภ.เกษตรสมบูรณ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ทุกนาย ร่วมตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง แด่พระสงฆ์และสามเณร จำนวน ๓๐ รูป และร่วมถวายภัตตาหารและถวายพระพุทธรูปปางสมาธิหินหยกแก้วสีเขียว เมืองโพธิสัต อาณาจักรขอม ขนาดหน้าตัก ๒๙ เซนติเมตร ความสูง ๓๕ เซนติเมตร แด่คณะสงฆ์ร่วมอนุโมทนา ซึ่งมี หลวงพ่อสายทอง เตชะธัมโม วัดป่าห้วยกุ่ม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ แผ่เมตตาจิต จากนั้น ฯพณฯ พระยา วุฒที ใหม่ ฯลฯ , นายอนันต์ ชูโชติ ฯลฯ , นายวรศิษย์ พุทธจิบ ฯลฯ , และแขกผู้มีเกียรติ พร้อมกันที่ลานพิธีวางศิลาฤกษ์พระมหาธาตุเจดีย์วัดธาตุ บ้านเป้า เพื่อทำการประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ นายวรศิษย์ พุฒจีบ นายอำเภอเกษตรสมบูรณ์ กล่าวรายงานประวัติความเป็นมาของพระธาตุองค์เก่าที่มีความชำรุดทรุดโทรมและได้หักพังลงมานานกว่า ๘๐ ปี โดย นายนิกร สุขเกษม สื่อมวลชน และลูกหลานชาวบ้านเป้า ได้มีความ ประสงค์คิดริเริ่มในการก่อสร้างพระมหาธาตุเจดีย์วัดธาตุบ้านเป้าองค์ใหม่ แทนพระธาตุองค์เดิม เพื่อเป็นที่ประดิษฐาน พระอัฐิธาตุ พระอานนท์ พระทองคำ พระกัจจายน์หยกโบราณ และพระพุทธรูปปางสมาธิหินหยกแก้วสีเขียว เมืองโพธิสัต อานาจักรขอม จากนั้น นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ประธานฝ่ายฆราวาส (ฝ่ายไทย) กล่าวต้อนรับ ฯพณฯ พระยา วุฒที ใหม่ ที่ปรึกษาสมเด็จอัครมหาปัญญาจักรี เฮง สำริน ประธานรัฐสภา แห่งพระราชอาณาจักรกัมพูชา และคณะผู้ติดตามจำนวน ๔๐ ท่าน จากนั้น ฯพณฯ พระยา วุฒที ใหม่ ที่ปรึกษาสมเด็จอัครมหาปัญญาจักรี เฮง สำริน ประธานรัฐสภา แห่งพระราชอาณาจักรกัมพูชา ประธานฝ่ายฆราวาส (ฝ่ายกัมพูชา) กล่าวแสดงความรู้สึกที่ได้มาร่วมงานพิธีวางศิลาฤกษ์พระมหาธาตุเจดีย์วัดธาตุบ้านเป้า และถวายวัตถุมงคลให้แด่ หลวงพ่อสายทอง เตชะธัมโม วัดป่าห้วยกุ่ม ประธานฝ่ายสงฆ์ แผ่เมตตาจิต และมอบให้แก่แขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงาน อาทิเช่น อธิบดีกรมศิลปากร, นายอำเภอเกษตรสมบูรณ์, ผู้ที่ประสานงาน, ซึ่งเป็นพระหยกสีเขียว ขนาดความสูง ๒ เซนติเมตร ทำจากหยกส่วนที่เหลือขององค์พระพุทธรูปหยกแก้ว จำนวน ๑๑ องค์ และมอบพระพุทธรูปปางสมาธิ หินหยกแก้วสีเขียว จากเมืองโพธิสัต อานาจักรขอม ขนาดหน้าตัก ๒๙ เซนติเมตร ความสูง ๓๕ เซนติเมตร ให้แก่ นายวรศิษย์ พุฒจีบ นายอำเภอเกษตรสมบูรณ์ ให้เกียรติ เป็นตัวแทนรับมอบพระพุทธรูปปางสมาธิหยกแก้วสีเขียว เมืองโพธิสัต อาณาจักรขอม เพื่อนำมาประดิษฐานภายในวัดธาตุ หมู่ที่ ๙ ตำบลบ้านเป้า เพื่อให้เป็นศูนย์ร่วมจิตใจของประชาชนและเยาวชน และสร้างสัมพันธ์ระหว่าง ๒ ราชอาณาจักร ด้านศาสนาและวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามสืบต่อไป

จากนั้น นายยศพล โลหะทิน ปลัดเทศบาลตำบลบ้านเป้า (พราหมณ์ในพิธีบวงสรวง) ได้เชิญประธานในพิธี ฯพณฯ พระยา วุฒที ใหม่ ประธานฝ่ายฆราวาส (ฝ่ายกัมพูชา) นายอนันต์ ชูโชติ ประธานฝ่ายฆราวาส (ฝ่ายไทย) ได้เป็นประธานจุดเทียนเบิกเนตรพิธีบวงสรวงเทพยดา และตัวแทนข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จากราชอาณาจักรกัมพูชา – ราชอาณาจักรไทย จุดเทียนพิธีบวงสรวงเทพยดา เพื่อเป็นมงคลฤกษ์ 
ฯพณฯ พระยา วุฒที ใหม่ ประธานฝ่ายฆราวาส (ฝ่ายกัมพูชา) นายอนันต์ ชูโชติ ประธานฝ่ายฆราวาส (ฝ่ายไทย) ได้นำแผ่นวางศิลาฤกษ์ จำนวน ๒ แผ่น เข็มไม้มงคล ๙ ต้น อิฐเงิน อิฐทอง อิฐนาค อย่างละ ๓ ก้อน นำไปถวาย หลวงพ่อสายทอง เตชะธัมโม ประธานฝ่ายสงฆ์ ได้แผ่เมตตาอธิษฐานจิต และทำการเจิมเพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล หลวงพ่อสายทอง เตชะธัมโม ประธานฝ่ายสงฆ์, นายยศพล โลหะทิน พราหมณ์ในพิธีบวงสรวง ได้นำประธานฝ่ายฆราวาส (ฝ่ายกัมพูชา-ฝ่ายไทย) ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ แขกผู้มีเกียรติ พ่อค้า ประชาชน ร่วมพิธีมหามงคลวางศิลาฤกษ์พระมหาเจดีย์วัดธาตุ หมู่ที่ ๙ จากนั้น ฯพณฯ พระยา วุฒที ใหม่ ประธานฝ่ายฆราวาส (ฝ่ายกัมพูชา) ได้นำดินมงคลจากพระราชอาณาจักรกัมพูชา โปรยลงในแท่นวางศิลาฤกษ์ เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล ระหว่างไทย – กัมพูชา ประธานฝ่ายฆราวาส (ฝ่ายไทย-ฝ่ายกัมพูชา) ร่วมกันตรีเข็มไม้มงคลจำนวน ๙ ต้น วางแผ่นเงิน แผ่นทอง แผ่นนาค อิฐเงิน อิฐทอง อิฐนาค และแผ่นศิลาฤกษ์ แก้ว แหวน เงินทอง และร่วมกันโปรยข้าวตอกดอกไม้ คณะสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา และชมการแสดงการฟ้อนประกอบจังหวะเพลง จากกลุ่มแม่บ้านเป้าและองค์กรพัฒนาบทบาทสตรีตำบลบ้านเป้า นำโดยนางเข็มไทย ปานพรม , นางจตุรพร เลี่ยมปรีชา(เลขานุการ)ผู้ประสานงาน ให้กับแขกผู้มีเกียรติได้รับชม อาทิเช่น เพลงสาวบ้านแต้ เพลงบ้านเป้าที่รัก เพื่อเป็นการเผยแพร่ วัฒนธรรมอันดีงานให้กับชาวไทยและต่างชาติได้รับรู้ และมีเสียงตอบรับและชื่นชมจากการแสดงในครั้งนี้เป็นจำนวนมากและมอบของที่ละลึก ร่วมถ่ายภาพหมู่ไว้เป็นที่ละลึกสร้างความสัมพันธ์ที่ดีของทั้งสองราชอาณาจักรสืบไป....................................................................................................................................
Cr.นิกร สุขเกษม สื่อมวลชน นสพ.ไทยสยามนิวส์ : ผู้ริเริ่มโครงการและผู้ประสานงาน
Cr.อบอุ่น เปรมศิลปรีดา ผู้สื่อข่าว ปชส.มุกดาหาร : ผู้ช่วยผู้ประสานงานและดำเนินงาน 
Cr.เริงชัย ดวงตา ผู้สื่อข่าว ปชส. : บันทึกภาพ
Cr.เสาร์แก้ว คำพิวงค์ ผู้สื่อข่าว นสพ.ไทโปลิศ นิวส์
................................ ........ ......... ........ ................
เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.สยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมใจประชาชน)

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จัดอบรมสัมนาให้กับชุมชนต้นแบบด้านเศรษฐกิจพอเพียง

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จัดอบรมสัมนาให้กับชุมชนต้นแบบด้านเศรษฐกิจพอเพียง


                        
                                     วันที่ 26 เมษายน 2561 ฝ่ายกิจการสังคม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประไทย จัดอบรมโดยผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสังคม-ปฏิบัติการ ที่ห้องประชุมAuditorium โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี" เรื่องการสร้างกรอบคิดเพื่อร่วมเดินทางไปสู่จุดมุ่งหมายเดียวกัน"โดยได้เชิญวิทยากรผู้มีความเชี่ยวชาญการดำเนินงานด้านพัฒนา ดร.สุนทร คุณชัยมัง ให้ความรู้กับชุมชนต้นแบบด้านเศรษฐกิจพอเพียง ทั่วประเทศ จำนวน 14 ชุมชน เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เป็นการบูรณาการการดำเนินงานร่วมกับชุมชน ทำให้ชุมชนพึ่งพาตนเอง ไม่พึ่งพาองค์กรภายนอก ให้ชุมชนมุ่งมั่นพัฒนา ทำให้ชุมชนมั่นคง.มั่งคั่งและยั่งยืน
ในการนี้ได้บทสรุปตามที่ได้ร่วมคิดร่วมสร้างสู่จุดหมายเดียวกัน ได้ 3 มิติ ภายใต้โครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
มิติที่ 1 ด้านสิ่งแวดล้อม
มิติที่ 2 ด้านเศรษฐกิจ
มิติที่ 3 ด้านสังคม
ซึ่งจะทำให้ชุมชนรอบโรงไฟฟ้า และใต้สายส่งไฟฟ้าแรงสูงได้อยู่ดี.กินดี.มีความสุข อย่างยั่งยืนช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
บุญสี ศรีกุล
ผู้สื่อข่าวกระแสใต้@สยามโฟกัส ข่าว 4 ภาค/อีสาน
เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.สยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมใจประชาชน)

รองผู้ว่าฯ สระแก้ว เปิดงานสืบสานประเพณีบุญผะเหวดเทศน์ มหาชาติชาดก ประจำปี 2561 ณ วัดสระแก้ว พระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดสระแก้ว

รองผู้ว่าฯ สระแก้ว เปิดงานสืบสานประเพณีบุญผะเหวดเทศน์ มหาชาติชาดก ประจำปี 2561 ณ วัดสระแก้ว พระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดสระแก้ว


                         
วันที่ 26 เมษายน 2561 เวลา 15.00 น. นายไชยนันท์ แสงทอง วัฒนธรรมจังหวัดสระแก้ว ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธาน และนายธีระชัย ลิ้มประสิทธิศักดิ์ นายอำเภอเมืองสระแก้ว นายมานะ ธีระเศวต ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดสระแก้ว พ.ต.อ.ภิรมย์ จันทราภิมย์ ผกก.ภ.เมืองสระแก้ว และผู้นำท้องถิ่นจากเทศบาลเมืองสระแก้ว พิธีอัญเชิญพระอุปคุต พร้อมเครื่องสักการะจากสวนสาธารณะ สระแก้ว-สระขวัญ (ป่าหิมพานต์จำลอง)เทศบาลเมืองสระแก้ว มาวัดสระแก้ว พระอารามหลวง เป็นสถานที่เทศน์มหาชาติ โดยมีพระครูธำรงปริยัติคุณ เจ้าคณะอำเภอเมืองสระแก้ว เป็นประธานสงฆ์ หลังจากการแสดง ประธานสงฆ์ให้ศีล และได้ตั้งขบวนแห่อัญเชิญพระเวสสันดรเข้าเมือง จากป่าหิมพานต์ (บริเวณสระแก้ว-ขวัญ) เทศบาลเมืองสระแก้ว ถึงเส้นทางถนนสุวรรณศร ถึงวัดสระแก้ว โดยขบวนต่างๆ เป็นของเทศบาลเมือง เทศบาลตำบล และ อบต. ขบวนแห่เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
                         
จากนั้นนายภูสิต สมจิตต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานเปิดงานสืบสานประเพณีบุญผะเวสเทศน์มหาชาติ ประจำปี 2561 และได้มอบรางวัลขบวนแห่ชนะเลิศ ในช่วงเย็นหลังพิธีเปิด ได้ไหว้พระรับศีล และฟังเทศน์ " เชิญพระเวสสันดรเข้าเมือง"
                         
วันที่ 27 เมษายน 2561 เวลา 05.30 น. นายพรพจน์ เพ็ญพาส ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว หัวหน้าส่วนราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ พ่อค้า และประชาชน เข้าร่วมพิธีแห่ข้าวพันก้อน ตามประเพณี เทศน์มหาชาติ จำนวน 13 กัณฑ์เทศน์ เท่ากับ1,000 พระคาถา (เทศน์มหาชาติชาดก) หลังเสร็จพิธีแห่ข้าวพันก้อน ประธานขึ้นสู่ศาลาการเปรียญ เพื่อดำเนินการฟังพระเทศน์มหาชาติในกัณฑ์ต่างๆ จำนวน 13 กัณฑ์ แต่ละกัณฑ์มีเจ้าภาพจองครบทุกกัณฑ์ ตลอดทั้งวัน จนกว่าจบพิธี
ภัทรพล มานะสร้าง
เจ้าของ/บรรณาธิการ
นสพ.พลังประชารัฐ รายงาน
เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.สยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมใจประชาชน)

รองผอ.รมน.ขอนแก่น ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม โครงการไทยนิยม ครั้งที่ ๓

รองผอ.รมน.ขอนแก่น ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม โครงการไทยนิยม ครั้งที่ ๓




                                               เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๖๑ พลตรีกาจบดินทร์ ยิ่งดอน รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดขอนแก่น ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม และติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ของทีมขับเคลื่อนระดับตำบลในการจัดเวทีประชาคม ครั้งที่ ๓ “ปรับเปลี่ยนความคิด ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปปฏิบัติ” ณ บ้านดอนแดง หมู่ที่ ๒ ตำบลดอนหัน และบ้านหนองกุง หมู่ที่ ๑๘ ตำบลบ้านทุ่ม อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น โดยมีประชาชนเข้าร่วมเวทีประชาคมครั้งนี้จำนวนมาก พร้อมกันนี้รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดขอนแก่นได้พบปะพัฒนาสัมพันธ์กับประชาชนที่เข้าร่วมเวทีประชาคม พร้อมสร้างการรับรู้และส่งเสริมการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต โดยยกตัวอย่างผู้มีประสบการณ์และประสบความสำเร็จในด้านเศรษฐกิจพอเพียง ให้ผู้เข้าร่วมเวทีประชาคมได้เรียนรู้และมีแผนในการนำไปปฏิบัติในการดำเนินชีวิตสู่วิถีไทย วิถีพอเพียง มีความรู้รักสามัคคีและยึดมั่นศาสตร์พระราชา เพื่อการมีส่วนร่วมในการ ขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ต่อไป
ภาพ/ข่าว : เจมส์ กอ.รมน.ขอนแก่น
................ ...... ...... ....... ................
เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.สยามไทยแลนด์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมใจประชาชน)

กอ.รมน.ร่วมกับ วัฒนธรรมขอนแก่น ออกตรวจติดตามร้านเกมส์ อย่างเคร่งครัด

กอ.รมน.ร่วมกับ วัฒนธรรมขอนแก่น ออกตรวจติดตามร้านเกมส์ อย่างเคร่งครัด



วันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๖๑ เวลา ๐๙.๐๐ น. กอ.รมน.จังหวัดขอนแก่น ร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น ออกตรวจปฏิบัติการตามแผนการตรวจติดตามร้านเกมส์ ประจำเดือน เมษายน ๒๕๖๑ ตามคำสั่งคณะคณะกรรมการตรวจ ติดตาม กำกับดูแลสถานประกอบกิจการตามพ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ.๒๕๕๑ หน่วยงานร่วมตรวจฯ ประกอบด้วย มณฑลทหารบกที่ ๒๓ ตำรวจภูธรจ.ขอนแก่น ตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ปกครองจังหวัด กองร้อยอาสารักษาดินแดน พมจ. ศึกษาธิการจังหวัดขอนแก่น และเทศบาลนครขอนแก่น
🌱ออกตรวจร้านเกม จำนวน ๖ แห่ง ในพื้นที่อำเภอเมือง ไม่พบการกระทำผิด แนะนำผู้ประกอบกิจการฯให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขอย่างเคร่งครัด
ภาพ/ข่าว : เจมส์ กอ.รมน.ขอนแก่น
............... ....... ....... ....... ...............
เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.สยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมใจประชาชน)

หมอเตือนประชาชนที่อาศัยตามป่าเชิงเขา ป้องกันตนเองจากยุงก้นปล่อง หลังเข้าป่า ๑๕ วัน หากมีไข้ หนาวสั่น ปวดหัว ให้ตรวจหาการติดเชื้อไข้มาลาเรีย


หมอเตือนประชาชนที่อาศัยตามป่าเชิงเขา ป้องกันตนเองจากยุงก้นปล่อง หลังเข้าป่า ๑๕ วัน หากมีไข้ หนาวสั่น ปวดหัว ให้ตรวจหาการติดเชื้อไข้มาลาเรีย  



ไข้มาลาเรียเป็นโรคติดต่อที่มียุงก้นปล่องเป็นพาหะนำโรค ในอดีตไข้มาลาเรียได้จัดว่าเป็นปัญหาทางด้านสาธารณสุขของประเทศไทยเนื่องจากโรคนี้เป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้ ปัจจุบันไข้มาลาเรียลดน้อยลงมาก แต่ยังเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขอยู่ ความชุกชุมของไข้มาลาเรียยังคงมีตามพื้นที่ที่เป็นป่าเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามแนวบริเวณชายแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งพื้นที่ตามแนวเทือกเขาภูพานเขตรอยต่อจังหวัดกาฬสินธุ์ – อุดรธานี และกาฬสินธุ์ - สกลนคร  ที่ผ่านมาเคยมีผู้ติดเชื้อและมีผู้ป่วยด้วยโรคนี้
 สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ ๗ ขอนแก่น เปิดเผยข้อมูลสถานการณ์โรคไข้มาลาเรียปีพ.ศ.๒๕๖๑ ว่าในประเทศไทยมีรายงานผู้ป่วย ๑,๒๔๖ ราย พบสัดส่วนผู้ป่วยเป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง ๒:๑ อยู่ในระหว่างอายุ ๒๕-๔๔ ปี รองลงมาคืออายุมากกว่า ๔๕ ปี อาชีพส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร  ถึงแม้ว่าไข้มาลาเรียเป็นโรคติดต่อที่มีมาแต่โบราณกาล แต่ก็ยังพบผู้ป่วยได้ตลอดปีโดยเฉพาะ บริเวณที่เป็นป่าเขา โรคนี้มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามลักษณะอาการหรือฤดูกาล เช่น อาจเรียกชื่อว่าไข้จับสั่น ไข้ป่า ไข้ป้าง ไข้ดง ปัจจุบันทางการแพทย์เรียกว่าไข้มาลาเรีย ความหวังในอนาคตที่จะกำจัดไข้มาลาเรียหมดไปจากประเทศไทยจำเป็นต้องอาศัย การมีส่วนร่วมของเจ้าหน้าที่ทั้งภาครัฐและความร่วมมือจากประชาชนในชุมชนด้วย มาตรการให้ความรู้เรื่องไข้มาลาเรียแก่ชุมชนถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้าประชาชนในชุมชนมีความรู้เรื่องไข้มาลาเรีย และมีความตระหนักว่าเสี่ยงอันตรายต่อการเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตและรู้วิธีการปฏิบัติตนในการป้องกัน การควบคุมและรักษาถูกที่วิธีเมื่อเจ็บป่วย  จะสามารถลดอัตราการเจ็บป่วยลงได้ สำหรับในพื้นที่ภาคอีสานจังหวัดที่มีรายงานจำนวนผู้ป่วยสูงสุด ได้แก่ อุบลราชธานีและศรีษะเกษ      
สำหรับพื้นที่รับผิดชอบเขตสุขภาพที่ ๗ เคยพบผู้ป่วยที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีเขตเทือกเขาโดยเฉพาะบริเวณเทือกเขาภูพานเขตติดต่อกับจังหวัดสกลนคร ดังนั้น ประชาชนจึงควรเพิ่มความระมัดระวังเมื่อจำเป็นต้องเข้าไปในป่า โดยเฉพาะกลุ่มที่มีอาชีพหาของป่า พรานล่าสัตว์ ท่องเที่ยวที่ต้องพักค้างแรมในป่า รวมทั้งพระภิกษุที่ธุดงค์ตามป่าเขา ถ้าไม่ป้องกันตนเองจากการถูกยุงกัดอาจติดเชื้อและป่วยเป็นไข้มาลาเรียได้  และขอฝากผู้นำชุมชนพี่น้องอสม.ทำความเข้าใจแก่ประชาชนในชุมชน ให้ตระหนักถึงอันตรายและการให้ความรู้ถึงการป้องกันไม่ให้ป่วยเป็นไข้มาลาเรีย  ซึ่งมียุงก้นปล่องเป็นตัวนำเชื้อและมักออกหากินในช่วงเวลาหัวค่ำถึงใกล้รุ่งเช้า และมีอยู่ชุกชุมในบริเวณป่าเขา  โดยป้องกันตนเองให้ปลอดภัย ดังนี้
๑.      นอนในมุ้ง ยุงนำเชื้อมาลาเรียชอบกัดกินเลือดคนในเวลากลางคืน จึงจำเป็นต้องนอนในมุ้งเสมอ ถึงแม้ว่ายุงจะมีไม่มากในบางคืนก็ตาม
๒.      ใช้ยาทากันยุง ทาตามบริเวณผิวหนังที่อยู่นอกเสื้อผ้า เมื่อยังไม่เข้ามุ้งนอนจะป้องกันยุงกัดได้ ๓-๔ ชั่วโมง ยาทากันยุงมีจำหน่ายทั่วไป
๓.      สวมใส่เครื่องปกคลุมร่างกาย  เช่น เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว หมวก ผ้าคลุมใบหน้าเมื่อจำเป็นต้องเข้าไปในป่าเชิงเขา
๔.      เจาะเลือดตรวจ เพื่อหาเชื้อมาลาเรีย เมื่อกลับจากป่าเขาและมีอาการไข้ภายใน ๑๕ วัน รีบไปเจาะเลือดตรวจที่ อาสาสมัครสาธารณสุขในหมู่บ้าน  สถานีอนามัย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โรงพยาบาล
๕.      ไม่ควรกินยาป้องกัน ในปัจจุบันมีปัญหาเรื่องเชื้อมาลาเรียดื้อยา จึงไม่แนะนำให้กินยาป้องกัน
 อย่างไรก็ตามหากประชาชนเจ็บป่วยหรือไม่สบาย ขอให้รีบไปพบแพทย์ทันที และถ้ามีข้อสงสัยถึงอาการของโรคและวิธีปฏิบัติ สามารถติดต่อได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลฮอตไลน์ กระทรวงสาธารณสุข โทรศัพท์ ๑๔๒๒ และศูนย์ปฏิบัติการกรมควบคุมโรค โทรศัพท์  -๒๕๙๐-๓๓๓๓  “ไข้หนาวจับสั่น ให้ระวังไข้มาลาเรีย” 
//////////////////////////////////

ข้อมูลจาก: สำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง กรมควบคุมโรค
โทรศัพท์ 02-5903857 วันที่ 23 เมษายน 2561
เผยแพร่ : กลุ่มสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ
ศูนย์รับข้อร้องเรียนสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ ๗ จ.ขอนแก่น
หมายเลข ๐๔๓-๒๒๒๘๑๘-๙ ต่อ ๒๒๔
http://odpc7.ddc.moph.go.th
ติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมที่ rinjong_201@hotmail.com

ผบ.เรือนจำกลางขอนแก่น สนธิกำลังตรวจค้นเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย

ผบ.เรือนจำกลางขอนแก่น สนธิกำลังตรวจค้นเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย

เวลา 16.30 น. ของวันที่ 25 เม.ย.2561 นายวีรชัย เพชรรัตน์ ผบ.เรือนจำกลางขอนแก่น ปฏิบัติหน้าที่ประธานเรือนจำ/ทัณฑสถาน เขต 4 พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ เขต 4 จำนวน 32 นาย และเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร จำนวน 30 นาย รวม 62 นาย เข้าร่วมจู่โจมตรวจค้นเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร ไม่พบยาเสพติด โทรศัพท์มือถือ และสิ่งของต้องห้ามแต่อย่างใด
ภาพ/ข่าว : เจมส์ กอ.รมน.ขอนแก่น
.............. ....... ....... ....... ..............
เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.สยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมใจประชาชน)

รองผอ.รมน.ขอนแก่น ร่วมพิธีเปิดกิจกรรม "เรารักขอนแก่น" ครั้งที่ ๔ ประจำปี ๒๕๖๑

รองผอ.รมน.ขอนแก่น ร่วมพิธีเปิดกิจกรรม "เรารักขอนแก่น" ครั้งที่ ๔ ประจำปี ๒๕๖๑

เมื่อวันพุธที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๖๑ เวลา ๐๖.๓๐ น. พลตรีกาจบดินทร์ ยิ่งดอน รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จังหวัดขอนแก่น ร่วมพิธีเปิดกิจกรรม “เรารักขอนแก่น” ครั้งที่ ๔ ประจำปี ๒๕๖๑ โดยมี นายสุชัย บุตรสาระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานพิธีฯ สำหรับกิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประชาสัมพันธ์ข้อมูลกิจกรรมหน่วยงาน ระหว่างส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งองค์กรภาคเอกชนในจังหวัดขอนแก่น ทั้งยังสร้างความสัมพันธ์อันดี อันจะเป็นประโยชน์ในการบูรณาการการปฏิบัติให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อไป ณ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดขอนแก่น ตำบลศิลา อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
ภาพ/ข่าว : เจมส์ กอ.รมน.ขอนแก่น
............... ....... ....... ....... .............
เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.สยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมใจประชาชน)

บุรีรัมย์ รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาฯลงพื้นที่แก้ปัญหาน้ำท่วมโรงเรียน พร้อมวางระบบกันน้ำท่วม(มีคลิป)

บุรีรัมย์ รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาฯลงพื้นที่แก้ปัญหาน้ำท่วมโรงเรียน พร้อมวางระบบกันน้ำท่วม(มีคลิป)

                               นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ที่โรงเรียนพุทไธสง อำเภอพุทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อติดตามการก่อสร้างอาคารเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม สภาพปัญหาการใช้อินเตอร์เน็ตของสถานศึกษา ตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมทั้งประชุมวางระบบป้องกันการเกิดน้ำท่วมในโรงเรียน โดยมีคณะผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1-4 และเขต สพม.32 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สุรินทร์เขต 1-3 และ สพม.33 (สุรินทร์) ร่วมให้การต้อนรับ
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2560 ได้เกิดน้ำท่วมอย่างหนัก ทำให้อาคารเรียนของโรงเรียนพุทไธสงจำนวน 3 หลังได้รับความเสียหายอย่างหนัก โครงสร้างอาคารชำรุด วัสดุเสื่อมสภาพ ไม่ปลอดภัยต่อการใช้งาน จึงมีคำสั่งให้รื้อถอนและงดใช้อาคารเรียนทั้ง 3 หลัง ส่งผลให้นักเรียนขาดห้องเรียน 48 ห้อง ปัจจุบันโรงเรียนได้สร้างห้องเรียนชั่วคราวให้ใช้งานก่อน โดยใช้สถานที่ใต้ถุนอาคาร ลานจอดรถ ซึ่งทาง สพฐ.ได้จัดสรรงบประมาณเพื่อสร้างอาคาร จำนวน 1 หลัง ในปีงบประมาณ 2562 ระบบป้องกันน้ำท่วม เพื่อช่วยเหลือ
ด้าน นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า จากที่ได้รับทราบปัญหาของทางโรงเรียนพุทไธสง และลงตรวจเยี่ยมก็พบว่าโรงเรียนพุทไธสง ก็พบว่าทางโรงเรียนมีความเดือดร้อนมาก จึงได้มอบหมายให้ สพฐ.จัดหาอาคารสำเร็จรูปชั่วคราว (Knockdown Building) สำหรับเป็นห้องเรียน จำนวน 48 ห้อง เพื่อให้เพียงพอกับห้องเรียนที่ขาดไปเพื่อแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น ส่วนเรื่องการก่อสร้างอาคารเรียนถาวรนั้น คาดว่า ทางสพฐ นั้นก็ได้เตรียมที่จะก็จัดสรรงบประมาณเพื่อช่วยเหลือในการสร้างอาคารเรียนและวางระบบระบายน้ำให้ทางโรงเรียนพุทไธสงในการก่อสร้างอาคารเรียนใหม่หลังจากที่อาคารเก่าถูกน้ำท่วมและพังไปถึง 3 อาคารซึ่งจะพิจารณาจัดสรรงบประมาณให้กับทางโรงเรียนที่มีความจำเป็นเร่งด่วนก่อน รมว.ศึกษาธิการ กล่าว/////
ภาพ / ข่าว ธีรยุทธ์ ชำนาญกอง / วันชัย ผิวอร่าม จ.บุรีรัมย์
เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.สยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมใจประชาชน)

บุรีรัมย์-นักค้ายาใช้หน้าไม้ยิงปลัดหนุ่มขณะล่อซื้อ รวบทันควันลูกสารวัตรกำนัน (มีคลิป)

บุรีรัมย์-นักค้ายาใช้หน้าไม้ยิงปลัดหนุ่มขณะล่อซื้อ รวบทันควันลูกสารวัตรกำนัน (มีคลิป)

ลูกชายสารวัตรกำนัน ใช้ปืนอัดลมยิงปลัดหนุ่มขณะล่อซื้อยาบ้า กระสุนเข้าท้อง หามส่งโรงพยาบาล กำลังอีกชุดไล่ล่ามือปืนจนจับกุมได้ในป่าอ้อย สารภาพที่ยิงเพราะตกใจ ควบคุมตัวมาดำเนินคดี
วันนี้ 25 เม.ย.เมื่อเวลา 02.00 น.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร(อส.) อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ได้เร่งนำนายจตุรงค์ วิชัยดิษฐ์ อายุ 36 ปี ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.บ้านด่าน ส่งโรงพยาบาลบ้านด่าน เป็นการเร่งด่วน
หลังจากถูกยิงด้วยปืนหน้าไม้ยิงเข้าบริเวณช่องท้อง ระหว่างการล่อซื้อยาบ้าจากวัยรุ่นในเขต ต.โนนขวาง โดยต่อมาได้ถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์
ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่อีกชุด ได้ออกติดตามมือปืนจนกระทั่งสามารถจับนายนพรัตน์ เนียนไธสง อายุ 27 ปี เป็นลูกชายสารวัตรกำนันใน อ.บ้านด่าน ได้ในไร่อ้อย บ้านหนองนา ต.โนนขวาง พร้อมอาวุธปืนอัดลมที่ก่อเหตุ เป็นปืนหน้าไม้อัดลม นำตัวมาควบคุมที่ สภ.บ้านด่าน เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าเป็นคนยิง สาเหตุเพราะตกใจ
จากการสอบถามกำลังอาสาสมัครชุดจับกุม เล่าว่าช่วงดึกที่ผ่านชุดปฏิบัติการพิเศษ อ.บ้านด่าน ได้ออกตรวจพื้นที่และได้สุ่มตรวจปัสสาวะกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ และพบว่ามีฉี่สีม่วงหลายราย
จึงได้ขยายผลจากกลุ่มวัยรุ่นว่าซื้อยาบ้ามาจากนายนพรัตน์ ลูกชายสารวัตรกำนัน จึงทำการนัดส่งยาบ้ากันที่ป่าอ้อย บริเวณบ้านหนองนา เมื่อถึงเวลานายนพรัตน์ ได้นำยาบ้ามาส่งจำนวน 3 เม็ด
เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวจับกุม ทำให้นายนพรัตน์ ตกใจใช้ลูกดอกอัดลม ที่ประดิษฐ์ ขึ้นมายิงใส่เจ้าหน้าที่จนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว จากการสอบถามนายนพรัตน์ รับสารภาพว่าจำหน่ายยาบ้ามาร่วม 1 เดือนแล้ว สาเหตุที่ยิงเพราะตกใจชุดจับกุมจึงยิงลูกดอกออกไปเพื่อเปิดทางหนี/////////
ภาพ / ข่าว ธีรยุทธ์ ชำนาญกอง / วันชัย ผิวอร่าม จ.บุรีรัมย์
เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.สยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมใจประชาชน)

ระเบิดศึก ! การชิงชัย โบว์ลิ่งประเวศสัมพันธ์ ขับเคี่ยวอย่าง ดุ เด็ด เผ็ดมันส์

ระเบิดศึก ! การชิงชัย โบว์ลิ่งประเวศสัมพันธ์ ขับเคี่ยวอย่าง ดุ เด็ด เผ็ดมันส์ 

                                             เมื่อเวลา09.00น.วันที่21เม.ย.61 ณ.บลูโอ ริธึม แอนด์ โบว์ ศูนย์การค้า เมกาบางนา ได้มีการจัดการแข่งขันโบว์ลิ่ง ชิงชนะเลิศถ้วยรางวัลเกียรติยศ จาก พล.ต.ท.ชาญเทพ ทางคณะ กต.ตร.สน.ประเวศ และผู้ทรงเกียรติคณะที่ปรึกษา กต.ตร ทั้งนี้ คุณสกุลรัตน์ ทิพย์วรรณงาม(ประธาน กต.ตร.สน.ประเวศ) และคณะ กต.ตร.สน.ประเวศ ได้ให้การสนับสนุนเพื่อหารายได้ให้เป็นประโยชน์กับทาง สน.ประเวศโดยมีวัตถุประสงค์ 1.จะได้นำมาใช้ในการสนับสนุนงานบำเพ็ญประโยชน์และส่งเสริมความสัมพันธ์อันดี ระหว่างประชาชนในเขตพื้นที่ สน.ประเวศ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประเวศ 2.เพื่อให้การสนับสนุนงานบำเพ็ญประโยชน์ ของอาสาสมัครตำรวจ สน.ประเวศ ที่ออกตรวจพื้นที่ในทุกๆคืนเพื่อป้องกันและช่วยดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนในเขตพื้นที่ สน.ประเวศ 3.เพื่อจัดหารายได้ไว้เป็นกองทุน กต.ตร.สน.ประเวศ เพื่อนำไปดำเนินกิจกรรมในภารกิจต่างๆ ของทาง สน.ประเวศ รวมทั้งงานสาธารณะประโยชน์ของทาง สน.ประเวศ 4.เพื่อจัดงานกิจกรรมสร้างเสริมกำลังใจจากประชาชนถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกระดับใน สน.ประเวศ 5.เพื่อเป็นการแสดงความร่วมมือร่วมใจระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สร้างเสริมมิตรภาพอันดีต่อกัน และงานในครั้งนี้ คุณ สกุลรัตน์ ทิพย์วรรณงาม(ประธาน กต.ตร.) ได้รับเกียรติจาก พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์(ผบก.น.4) เดินทางมาเป็นประธานฯในพิธีเปิดการแข่งขัน พร้อมทั้งมอบถ้วยรางวัลให้แก่ผู้แข่งขันและมอบโล่ห์ประกาศเกียรติคุณให้กับทาง กต.ตร.และผู้ทรงเกียรติคณะที่ปรึกษา กต.ตร.สน.ประเวศ ที่ร่วมสนับสนุนโครงการ โดยในช่วงเวลาก่อนที่ประธานในพิธีฯจะเดินทางมาถึงทาง พ.ต.อ.อลงกรณ์ ศิริสงคราม(ผกก.สน.ประเวศ)พร้อมด้วย คุณสกุลรัตน์ ทิพย์วรรณงาม(ประธาน กต.ตร.) ได้เตรียมความพร้อมและรอให้การต้อนรับ ภายหลังจากเปิดพิธีฯ ทีมนักแข่งขันก็ได้ขับเคี่ยวโยนโบว์กันอย่างสนุกสนานต้องบอกว่าแต่ละท่านล้วนแล้วแต่ฝีมือระดับโปร มีลุ้นกันตลอดเวลาของการแข่งขัน โดยมีกติกาหากโยนแล้วพินโบว์ล้มและเหลือจำนวนเป็นคี่ ก็นับเป็นสแปร แต่ถ้าหากโยนแล้วพินโบว์เหลือเป็นคู่หรือล้มหมดก็นับเป็นสไตรค์ และทีมใดได้คะแนนผลรวมสูงสุดก็คือผู้ชนะเลิศ และอันดับรองลงมาตามลำดับ นับได้ว่าผู้ที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันและสนับสนุนโครงการในครั้งนี้ถือได้ว่าได้มาร่วมสนุก พร้อมได้ร่วมกันช่วยสนับสนุนช่วยเหลือกับโครงการที่ดีเพื่อสังคมอีกด้วย

เสสะเวช(ผบช.น.) ถ้วยรางวัลเกียรติยศ รองชนะเลิศ อันดับ1 จาก พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์(ผบก.น.4) และถ้วยรางวัลเกียรติยศรองชนะเลิศ อันดับ2 จาก พ.ต.อ.ธวัช วงศ์สง่า(รอง ผบก.น.4) อีกทั้งยังมีการมอบ โล่ห์ประกาศเกียรติคุณให้กับ

Cr.เสาร์แก้ว คำพิวงค์ ข่าว ดร.ยุพเณศตช์ ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม บรรณธิการบริหาร ขอขอบคุณ คุณสกุลรัตน์ ทิพย์วรรณงาม(ประธาน กต.ตร.) และ (YAIYANNAWA) ที่สนับสนุนข้อมูลและข่าวสาร
...................... ......... ......... ........... .....................
เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.สยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมใจประชาชน)

บุรีรัมย์-พ่อเตือนลูกกินดิบไม่พอใจคว้ามีดแทงพ่อวัย 75 ปี หลบได้คว้าท่อนเหล็กทุบดับ

บุรีรัมย์-พ่อเตือนลูกกินดิบไม่พอใจคว้ามีดแทงพ่อวัย 75 ปี หลบได้คว้าท่อนเหล็กทุบดับ


เกิดเหตุลูกชายวัย 48 ปีซื้อเนื้อมาเตรียมทำก้อย พ่อ 75 ปีเตือนกินของดิบ ลูกชายเมาได้ที่ไม่พอใจใช้มีดแทงพ่อหลบทัน คว้าโช๊ครถจักรยานยนต์คล้ายคมแฝกทุบ ดับคาที่ ตำรวจคุมตัวสอบสวน สารภาพเป็นคนก่อเหตุเพราะลูกเมาแล้วหาเรื่องพ่อเป็นประจำ
วันนี้ 21 เม.ย.61 พ.ต.อ สัมภาษณ์ ศรีจันทึก ผกก.สภ.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีเหตุฆ่ากันตายที่บ้านโนนค้อ ต.สระแก จึงนำกำลังไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยเจ้าพ่อวังกรูด อ.สตึก
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้สองชั้นยกสูง บริเวณแคร่ใต้ถุนบ้าน พบศพนายสมบูรณ์ หรือเบิ้ม น้อยบาด อายุ 48 ปีนอนหงายเสียชีวิตอยู่บริเวณครัว สภาพศพบริเวณศีรษะมีบาดแผลฉกรรจ์หลายแผล เลือดไหลนองทั่วพื้นกระดาน
ใกล้กันพบโช๊คอัพรถจักรยานยนต์ลักษณะคล้ายกับคมแฝกวางอยู่ 2 อันมีคราบเลือดเปื้อนอยู่ และพบมีดปลายแหลมที่ใช้ทำกับข้าวร่วงอยู่บนพื้น และพบนายสม น้อยบาด อายุ 75 ปีซึ่งเป็นพ่อของผู้ตายยืนคอยมอบตัวกับตำรวจ
จากการสอบถามนายสมบูรณ์ พ่อผู้ตาย เล่าว่า วันนี้เห็นลูกชายซื้อเนื้อมาเตรียมประกอบอาหาร ตั้งแต่ช่วงเที่ยง บอกว่าจะทำก้อยเนื้อรับประทาน ตนแค่เตือนบอกว่าระวังนะกินของดิบ เดี๋ยวจะเป็นโรคหลายชนิด
                          
จากนั้นลูกชายได้โต้เถียงแบบไม่พอใจพูดขู่ฆ่าตลอดเวลา ประกอบกับลูกชายเมาสุรา ได้ใช้มีดหั่นเนื้อ ปรี่เข้ามาหมายจะแทง ตนเองหลบได้ แต่ลูกชายก็ยังหันมาจะแทงซ้ำอีก จึงคว้าโช๊คอัพรถจักรยานยนต์เก่า ซึ่งอยู่ใกล้มือทุบเข้าศีรษะ 1 ครั้งจนลูกชายล้มลงก่อนจะซ้ำอีก 2 ครั้งด้วยความเจ็บใจ และไม่คิดว่าลูกชายจะเสียชีวิต ก่อนจะแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านให้แจ้งตำรวจมาจับตัวเอง
สอบถามชาวบ้านเล่าว่า สองพ่อลูกคู่นี้มักจะมีเรื่องทะเลาะกันเป็นประจำ จนเป็นที่รู้กันของชาวบ้านโดยเฉพาะลูกชายเคยขู่ฆ่ามาแล้วหลายครั้ง แต่ครั้งนี้รุนแรงถึงขั้นฆ่ากันตาย ซึ่งอาจจะมาจากลูกชายที่ใจร้อน ประกอบกับพ่อพยายามป้องกันตัวจึงทำให้ลูกชายเสียชีวิตดังกล่าว///////////
ภาพ / ข่าว ธีรยุทธ์ ชำนาญกอง / วันชัย ผิวอร่าม จ.บุรีรัมย์
เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.สยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมใจประชาชน)