ขอนแก่น!!พิธีลงนามความร่วมมือระหว่าง "MEDEZE GROUP และ โรงพยาบาลราชพฤกษ์ขอนแก่น

สยามไทยแลนด์ นิวส์ (ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)

ขอนแก่น!!พิธีลงนามความร่วมมือระหว่าง "MEDEZE GROUP และ โรงพยาบาลราชพฤกษ์ขอนแก่น     


      เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 17 ก.พ.66  ที่ ห้องประชุม ชั้นที่ 13 โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จังหวัดขอนแก่นบริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จับมือโรงพยาบาลราชพฤกษ์ จังหวัดขอนแก่น ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) เปิดศูนย์การเก็บไขมันเพื่อการฝากเก็บสเต็มเซลล์ (Cell Harvesting Center) ที่มีมาตรฐาน ปลอดภัย โดยมีนายรุจติศักดิ์ รังษี หัวหน้าสำนักงานจังหวัดขอนแก่น  นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน),นายแพทย์ธีระวัฒน์ ศรีนัครินทร์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จำกัด (มหาชน) นายชาญณรงค์ บุริสตระกูล ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU)


นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าผู้คนในโลกปัจจุบันกำลังประสบปัญหาอย่างหนักจากวิกฤติด้านสุขภาวะที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมมลพิษ จำนวนประชากรสูงอายุที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไปจนถึงสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 เมดีซ กรุ๊ป ตระหนักถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว โดยในปัจจุบัน เรามียอดรวมจำนวนการเก็บสเต็มเซลล์มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคอาเซียน และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วโลก 


“ศูนย์การเก็บไขมันเพื่อการฝากเก็บสเต็มเซลล์ (Cell Harvesting Center)มุ่งเน้นฐานลูกค้าที่มีพฤติกรรมการเลือกบริโภคสินค้าหรือบริการและมีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างจากลูกค้ากลุ่มอื่นๆ โดยลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเหล่านี้มักจะมองเห็นความสำคัญของการใช้จ่ายไปกับการสร้างสุขภาพที่ดีให้กับตนเอง ทั้งยังมองหาทางเลือกที่ใช้นวัตกรรมอันก้าวหน้าใหม่ ๆ ในการสร้างชีวิตที่ยืนยาวและมีคุณภาพแข็งแรงให้กับตนเอง รวมไปถึงอยากให้ตนแลดูอ่อนวัยและมีบุคลิกรูปลักษณ์ที่ดูดีอยู่เสมอ”
นายแพทย์วีรพล กล่าวอีกว่า  เทคโนโลยีการฝากเก็บสเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อไขมัน  ซึ่งสเต็มเซลล์ชนิดเนื้อเยื่อมีเซนไคม์ (Mesenchymal Stem Cell: MSCs) ในอดีตเรามีความเข้าใจกันว่าควรจัดเก็บจากเนื้อเยื่อสายสะดือของทารกแรกเกิดเท่านั้น  แต่เราพยายามพัฒนานวัตกรรมการคัดแยกและเพราะเลี้ยงสเต็มเซลล์นี้จากเนื้อเยื่อไขมันอย่างมุ่งมั่น เพื่อเปิดโอกาสให้กับทุกคนที่พลาดโอกาสการฝากเก็บสเต็มเซลล์ในวันแรกเกิด ได้มีโอกาสเป็นเจ้าของการฝากเก็บเซลล์ต้นกำเนิดที่ดีที่สุดของตัวเองอีกครั้ง การฝากเก็บ MSCs” ของตัวเอง ไว้เพื่อตัวเองในอนาคต นับเป็นหนทางที่ปลอดภัยและไม่ขัดต่อจริยธรรมใดในการดูแลสุขภาพของมนุษย์ที่จะพึงมีได้ 


นายแพทย์ธีระวัฒน์ กล่าวว่า การเปิดศูนย์การเก็บเซลล์ไขมันเพื่อการฝากเก็บสเต็มเซลล์ (CellHarvesting Center) ที่โรงบาลราชพฤกษ์ จังหวัดขอนแก่นนั้น เพื่อเป็นศูนย์กลางการให้บริการสำหรับผู้รับบริการในจังหวัดขอนแก่น จังหวัดใกล้เคียง ผู้รักสุขภาพจากสาธารณรัฐประชาธิปไตย ประเทศลาว และนานาชาติ ที่มีความต้องการฝากเก็บสเต็มเซลล์จากไขมันที่มีคุณภาพดี ทำให้ทุกขั้นตอนปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ได้คือการวางรากฐานของสุขภาพสำหรับคนทุกเพศทุกวัย     


ด้านนายรุจติศักดิ์ รังษี หัวหน้าสำนักงานจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ จะสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการค้า การลงทุน การบริการ เพื่อเชื่อมโยงอนุภูมิภาค ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น ดังนั้น ความร่วมมือในการเปิดศูนย์การเก็บเซลล์ไขมันเพื่อการฝากเก็บสเต็มเซลล์ (Cell Harvesting Center) ที่โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จังหวัดขอนแก่นครั้งนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนที่จะนำนวัตกรรมระดับโลกของคนไทย จะเข้ามาส่งเสริมและเพิ่มขีดความสามารถในการบริการด้านสุขภาพเพื่อคนขอนแก่น และจะเป็นจุดศูนย์กลางสำหรับจังหวัดใกล้เคียงและนักท่องเที่ยวที่จะมาจากประเทศเพื่อนบ้านเพื่อให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ตามวิสัยทัศน์ ขอนแก่นเมืองน่าอยู่ มุ่งสู่นวัตกรรม ศูนย์กลางเชื่อมโยงภูมิภาคกลุ่มน้ำโขง


นายชาญณรงค์ บุริสตระกูล ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า จังหวัดขอนแก่นมีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจมาอย่างเข้มแข็ง ขอนแก่นเป็นศูนย์กลางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการแพทย์ การศึกษา และวัฒนธรรม เรามีปัจจัยต่างๆที่ส่งเสริมให้จังหวัดมีความสามารถในการที่จะก้าวไปสู่การพัฒนาแบบก้าวกระโดดและยั่งยืน การเปิดศูนย์การเก็บเซลล์ไขมันเพื่อการฝากเก็บสเต็มเซลล์ (Cell Harvesting Center) ที่โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จังหวัดขอนแก่นนั้นจะเป็นอีกปัจจัยที่ส่งเสริมให้จังหวัดขอนแก่นก้าวสู่การเป็น MedicalHub ที่มีนวัตกรรมระดับโลกเข้ามาให้บริการจังหวัดขอนแก่นของเราจะถูกจับตามองในฐานะจังหวัดที่น่าลงทุนทางเศรษฐกิจและลงทุนทางด้านสุขภาพอย่างแน่นอน///////




เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.ข่าวสยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)


-------------------------------------
เว็ปไซต์นี้จดทะเบียนอิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทะเบียนพาณิชย์


-----------------------------------------------------


ตำรวจภูธรภาค 4!! กวาดล้างขบวนการค้าปืนเถื่อนเครือข่ายมาดิ ได้ปืนรวม 474 กระบอก ผู้ต้องหา 516 ราย

สยามไทยแลนด์ นิวส์ (ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)

ตำรวจภูธรภาค 4!! กวาดล้างขบวนการค้าปืนเถื่อนเครือข่ายมาดิ ได้ปืนรวม 474 กระบอก ผู้ต้องหา 516 ราย


      เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 ก.พ.66 อาวุธปืนไม่มีทะเบียน จำนวน 474 กระบอก อาวุธมีทะเบียนจำนวน 5 กระบอก อาวุธปืนสงคราม 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน 840 นัด เป็นของกลางที่ ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ร่วมกับ ตำรวจแต่ละท้องที่ ร่วมกันตรวจยึดได้ จากขบวนการค้าปืนเถือนเครือข่าย “มาดิ”   หลังจากได้กระจายกำลังเจ้าหน้าที่สืบสวน สอบสวน จากการติดตามการกระทำผิดผ่านช่องทางออนไลน์


พ.ต.อ.อรรถพร สุริยเลิศ รองผู้บังคับการตำรวจสืบสวนภาค 4 กล่าวว่า เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 10มิถุนายน 2565  ตำรวจสภ.เอราวัณ จังหวัดเลย จับกุมนายกฤษฎา เหล่าจูม พร้อมของกลาง อาวุธปืนสงคราม อาวุธปืนพกสั้น  และเครื่องกระสุนปืนเป็นจำนวนมาก  จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค4 ขยายผลการจับกุม  กระทั่งทราบว่า มีการติดต่อซื้อขายยอาวุธปืนผ่านช่องทางแอปพลิเคชั่นไลน์ “@มาดิ7-11” และนำไปสู่การจับกุมนางสาวกมลชนก สุขแสง เจ้าของบัญชีม้า ที่ใช้ในการรับโอนเงินค่าอาวุธปืน และจับกุมนายอดุลพินิจ จีระชาติสกุล ซึ่งเป็นแอดมินกลุ่มไลน์ จนนำไปสู่การขยายผลปิดล้อมตรวจค้นกลุ่มเป้าหมาย 3 แห่ง จนสามารถติดตามจับกุมแก็งค์ ครอบครัวมาดิ ซึ่งจะได้มีการขยายผลต่อไป เพราะยังพบว่ามีความเชื่อมโยงกันหลายพื้นที่ โดยเฉพาะโรงงานผลิตอาวุธปืนพบว่ามีในพื้นที่อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ ก่อนจะขยายผล ตรวจยึดวาวุธปืน อาวุธสงครามและเครื่องกระสุน ได้อีกจำนวนมาก จากโรงงานผลิตอาวุธปืน ในจังหวัดร้อยเอ็ด พังงา และจังหวัดพิจิตร ต่อไปจะต้องมีการขยายผลคนที่ได้ซื้ออาวุธปืนไป พร้อมกับใช้มาตรการฟอกเงินกับคนที่ซื้อปืนด้วย


พล.ต.ท.ยรรยง เวลโอสถ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า ขณะนี้การก่ออาชญากรรมโดยการใช้อาวุธปืนมีมากขึ้น โดยพาะเครือข่ายกลุ่มค้ายาเสพติดจะมีการหาอาวุธปืนติดตัว เพื่อใช้ในการต่อสู้กับเจ้าหน้าที่เพื่อไม่ให้ถูกจับกุมตัว แม้กระทั่งการใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุทะเลาะวิวาทตามงานรื่นเริงต่างๆ ทำให้มีการสะสมปืนที่มีการหาซื้อออนไลน์เพิ่มขึ้นค่อนข้างเยอะ จนนำมาก่อเหตุประจำ ทำให้ตำรวจภูธรภาค 4 ต้องมีการตัดวงจรด้วยการเร่งระดมกวาดล้างอาวุธปืนอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง เพราะอาวุธปืนที่ใช้จะมีราคาถูกจึงทำให้มีการครอบครองอาวุธปืนมากขึ้น จนนำมาใช้ก่อเหตุ ทำให้ตำรวจต้องเพิ่มความระมัดระวังในการออกเหตุ ส่วนในช่วงก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นภายกลางปีนี้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนขณะนี้ไม่มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มมือปืน หรือกลุ่มผู้อิทธิพล.




Cr.ชุมชนข่าวขอนแก่น
เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.ข่าวสยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)


-------------------------------------
เว็ปไซต์นี้จดทะเบียนอิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทะเบียนพาณิชย์


----------------------------------------------------


ผู้ปกครองเด็กนักเรียนที่โดนไฟคลอกขณะเข้าค่ายลูกเสือเดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่สถานีตำรวจโนนสัง

สยามไทยแลนด์ นิวส์ (ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)

ผู้ปกครองเด็กนักเรียนที่โดนไฟคลอกขณะเข้าค่ายลูกเสือเดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่สถานีตำรวจโนนสัง

 

      เมื่อวันที่ 5 ก.พ.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องเมื่อวันที่ 3 ก.พ.2566 เวลาประมาณ 19.30 น.ที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในอำเภอโนนสัง ขณะทำกิจกรรมรอบกองไฟทำให้มีเด็กนักเรียน ม.2 ถูกไฟคลอก ได้รับบาดเจ็บ 5 คน แต่มาเกิดเหตุการณ์ระทึกขวัญขึ้นเสียก่อน หลังจากประธานกล่าวเปิดงาน ได้มีกลุ่มลูกเสือ ที่แต่งตัวเป็นซูลู ประมาณ 7 คน เต้นถือคบเพลิงจะมาจุดที่กองไม้ที่เตรียมไว้ แต่ไม่ทราบแน่ชัดว่า เหตุใดจึงทำให้เกิดไฟลุกขึ้นท่วมร่างของเด็กๆ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 คน ถูกนำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น 1 คน อาการสาหัส ไฟคลอกร่างกาย กว่า 90% ส่วนอีก 1 คน ส่งรักษาตัวโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ไฟคลอกร่างกาย 50 - 60% ขณะที่อีก 3 คน ส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ,โรงพยาบาลอำเภอโนนสัง และอีก 1 คน ทำแผลแล้วกลับบ้านได้
     

และในวันนี้ที่สถานีตำรวจภูธรโนนสัง น.ส.วัชรี ฯ อายุ 37 ปี ที่อยู่ ต.โคกใหญ่ อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู และบิดา ด.ช.สุวัตฒ์ชัยฯ ได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ กับ ร.ต.อ.วรพงษ์ ศิริพงศ์วรนาถ รอง สว.(สอบสวน)สภ.โนนสัง  ให้สืบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุเพลิงไหม้ และสืบสวนหาตัวผู้กระทำให้เกิดเพลิงไหม้มาดำเนินคดี ในข้อกล่าวหาว่า "กระทำโดยประมาทให้เกิดเพลิงไหม้จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย และทำให้ทรัพย์สินเสียหาย" สืบเนื่องโรงเรียน ได้จัดกิจกรรม เข้าค่ายลูกเสือสามัญและเนตรนารี ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้น ปีที่ 2 ในบริเวณสนามฟุตบอลภายในโรงเรียน และได้ทำการจัดกิจกรรมเล่นรอบกองไฟลูกเสือและเนตรนารี ปรากฏว่าได้มีประกายไฟที่จุดในบริเวณกองไฟ ปลิวไปใส่ถังน้ำมันเบนซินที่นำมาเป็นเชื้อเพลิงที่วางอยู่บริเวณใกล้ๆ กันจนติดไฟและได้เกิดระเบิดใส่นักเรียนที่เป็นลูกเสือที่ทำการแสดงอยู่รอบๆกองไฟ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บดังนี้ คือ  1.ด.ช.วิทวัทฯ ได้รับบาดเจ็บรักษาตัวที่โรงพยาบาลโนนสัง  2.ด.ช.ชลกาญจน์ ฯ ได้รับบาดเจ็บและได้ส่งตัวรักษาที่โรงพยาบาลอุดรธานี  3.ด.ช.อนุพงศ์ ฯ บุตรชายของผู้แจ้งได้รับบาดเจ็บถูกไฟไหม้ตามร่างกาย ประมาณ 50-60 เปอร์เซ็นต์ ส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น  4.ด.ช.สุวัฒชัย ฯ ถูกไฟไหม้ตามร่างกาย ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ ส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ขอนแก่น จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ให้สืบสวนหาสาเหตุและสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป
      

โดย ร.ต.อ.วรพงษ์ ศิริพงศ์วรนาถ รอง สว.(สอบสวน) สภ.โนนสัง เจ้าของคดีได้กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้รับคดีไว้แล้ว โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย บาดเจ็บสาหัส 2 ราย ถูกนำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลใน จังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีเครื่องมือทางการแพทย์ที่ดีกว่า ส่วนน้องนักเรียนรายที่ 2 ด.ช.ชลกาญจน์ ฯ ถูกส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลอุดรธานี และเป็นบุตรของข้าราชการตำรวจ สภ.โนนสัง ขณะนี้ได้รับแจ้งว่ากลับมารักษาตัวที่บ้านแล้ว      
     

จากการสอบถาม พ.ต.อ.กฤษณ์ มาสุข ผกก.สภ.โนนสัง ได้เปิดเผยว่าหลังจากเกิดเหตุ ได้รายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นให้ทราบแล้ว ส่วนคดีจะได้รอผู้ปกครองของ เด็กที่ถูกไฟคลอกได้รับบาดเจ็บ ทยอยเข้าแจ้งความ และจะได้เชิญพยานที่อยู่ในเหตุการณ์มาให้ปากคำ เพื่อสอบสวนหาผู้กระทำความผิด ซึ่งในเบื้องต้นต้องรอดูอาการของเด็กๆสักพักก่อน และรับปากจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายให้สบายใจได้ ข่าวคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป. 



ภาพ/ข่าว : นายวรรธนะ ทองดี
เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.ข่าวสยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)


-------------------------------------
เว็ปไซต์นี้จดทะเบียนอิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทะเบียนพาณิชย์


-----------------------------------------------------

สลด!!ไฟคลอกนักเรียนเข้าค่ายลูกเสือ บาดเจ็บ 5 สาหัส 2 ราย(มีคลิป)

สยามไทยแลนด์ นิวส์ (ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)

สลด!!ไฟคลอกนักเรียนเข้าค่ายลูกเสือ บาดเจ็บ 5 สาหัส 2 ราย(มีคลิป)


     เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.หนองบัวลำภู ในโลกโซเชียลได้มีการแชร์คลิปเหตุการณ์ไฟไหม้ ที่เกิดขึ้นในค่ายลูกเสือ ของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในอำเภอโนนสัง ขณะทำกิจกรรมรอบกองไฟทำให้มีเด็กนักเรียน ม.2 ถูกไฟคลอก ได้รับบาดเจ็บ 5 คน เหตุเกิดเมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 3 ก.พ.2566ที่ผ่านมา
    

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ทราบว่า โรงเรียนได้จัดให้มีการเข้าค่ายลูกเสือชั้น ม.2 ระหว่างวันที่ 3 - 4 ก.พ. 65 โดยมีการเล่นรอบกองไฟในคืนวันที่ 3 แต่มาเกิดเหตุการณ์ระทึกขวัญขึ้นเสียก่อน จึงยกเลิกกิจกรรมทั้งหมด  เด็กนักเรียนรายหนึ่งที่เข้าร่วมกิจกรรม เล่าว่า หลังจากประธานกล่าวเปิดงาน ได้มีกลุ่มลูกเสือ ที่แต่งตัวเป็นซูลู ประมาณ 7 คน เต้นถือคบเพลิงจะมาจุดที่กองไม้ที่เตรียมไว้ แต่ไม่ทราบแน่ชัดว่า เหตุใดจึงทำให้เกิดไฟลุกขึ้นท่วมร่างของเพื่อนๆ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 คน ถูกนำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น 1 คน อาการสาหัส ไฟคลอกร่างกาย กว่า 90% ส่วนอีก 1 คน ส่งรักษาตัวโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ไฟคลอกร่างกาย 50 - 60% ขณะที่อีก 3 คน ส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี , โรงพยาบาลอำเภอโนนสัง และอีก 1 คน ทำแผลแล้วกลับบ้านได้
      

โดยผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถาม นายสำเนา ฯ ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว  ได้เปิดเผยว่า ในช่วงที่กำลังจะเริ่มการแสดง ซึ่งผู้อำนวยการโรงเรียนได้เป็นประธานในพิธีเปิด ก็ได้นั่งอยู่ร่วมกิจกรรมของเด็กนักเรียน หลังจากเกิดเหตุก็ได้ให้ยุติกิจกรรมทันที ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บก็ได้นำส่งตัวส่งโรงพยาบาลโนนสัง ซึ่งอยู่ใกล้ๆ และในช่วงเช้าให้นักเรียนเดินทางกลับ และตลอดคืนที่เกิดเหตุ ตนเองก็ได้อยู่ดูแลเด็กๆร่วมกับคณะครู และพ่อแม่ผู้ปกครองนักเรียนตลอดคืน ในช่วงเช้าได้ไปพบกับพ่อแม่ผู้ปกครองนักเรียนที่ ต.โคกใหญ่ อ.โนนสัง เพื่อแจ้งถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ให้กับพ่อแม่ ญาติ ผู้ปกครอง ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุได้เข้าใจ  และแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  
      

และในวันนี้ตนพร้อมด้วยคณะครู ก็ได้เดินทางไปเยี่ยมนักเรียนที่ จ.ขอนแก่น ทั้ง 2 โรงพยาบาล และมอบเงินช่วยเหลือในเบื้องต้นให้กับผู้ปกครองไว้ใช้จ่ายช่วงที่ดูแลบุตรหลาน มันเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเร็วมาก เพราะเหตุการณ์แบบนี้คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ถ้าเกิดขึ้นแล้วเราต้องช่วยกันรับผิดชอบและแก้ไข  รวมถึงรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ให้กับทางผู้บังคับบัญชา หน่วยงานต้นสังกัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบแล้ว ทั้งนี้ สำหรับการจัดกิจกรรม แม้ทางโรงเรียนได้ระมัดระวังในเรื่องของความปลอดภัย และจัดกิจกรรมอยู่ภายในโรงเรียน แต่ก็ไม่คาดคิดว่า จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ และหลังเกิดเหตุก็ได้ให้ครูที่ปรึกษา คอยติดตามดูอาการของนักเรียน ร่วมกับพ่อแม่ผู้ปกครอง และแจ้งให้ทาง พ่อแม่ ผู้ปกครองสามารถติดต่อตน หรือครูที่ปรึกษาได้ตลอด 24 ชั่วโมง ข่าวคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป.
















ภาพ/ข่าวนายวรรธนะ ทองดี จ.หนองบัวลำภู
เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.ข่าวสยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)


คลิปวีดีโอ




-------------------------------------
เว็ปไซต์นี้จดทะเบียนอิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทะเบียนพาณิชย์


-----------------------------------------------------

เน็ตไอดอลกัมพูชาพร้อมแต่ง!ใครล้มบัวขาวได้

สยามไทยแลนด์ นิวส์ (ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)

เน็ตไอดอลกัมพูชาพร้อมแต่ง!ใครล้มบัวขาวได้



กลายเป็นดราม่าข้ามประเทศ หลังกัมพูชา เจ้าภาพซีเกมส์ 2023 ที่จะจัดในช่วงเดือนพฤษภาคม เตรียมเปลี่ยนชื่อการแข่งขันมวย หรือที่หลายชาติรับรู้กันว่าคือมวยไทย เป็น “กุน ขแมร์” อ้างว่าเป็นต้นกำเนิดศิลปะมวย ร้อนไปถึง สมาพันธ์มวยไทยนานาชาติ หรือ (อิฟม่า) IFMA ได้ตัดสินใจไม่ส่งนักมวยไปร่วแข่งขัน เนื่องจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ IOC ยืนยันการใช้ “มวยไทย” ในการแข่งขันระดับนานาชาติ

หนึ่งในดราม่านั้น ยังมีประเด็น ของ บัวขาว หรือ สมบัติ บัญชาเมฆ นักมวยไทยชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์ยืนยัน ว่าตัวเองนั้นคือคนไทยเชื้อสายกูย (Kuy, Kui), โกย/กวย (Kuoy) หรือ ชาวส่วย (Suai) ไม่ใช่เขมร ตามที่ชาวกัมพูชาที่มาป่วนในเพจของตัวเอง และกล่าวอ้าง


แก้ว รัมย์จง (Keo Rumchong)
นักกีฬากุน ขแมร์ ออกมาประกาศท้า บัวขาว บัญชาเมฆ

โดย แก้ว รัมย์จง (Keo Rumchong) นักมวยจอมเก๋าวัย 35 ปี นักกีฬากุน ขแมร์ ระดับตำนานของกัมพูชา ออกมาประกาศท้า บัวขาว บัญชาเมฆ ตำนานนักชกชาวไทย ขึ้นชกตัวต่อตัวกันเลยทีเดียว
ลามไปถึงสเร จันทร รองประธานกิตติมศักดิ์สหพันธ์มวยกัมพูชา ได้ออกมาบอกว่า หากล้มบัวขาว ได้นั้นจะมีการมอบเงินพร้อมบ้าน รถ ให้นักมวยกัมพูชา จนบัวขาว ต้องออกมาโพสต์อีกครั้งถึงการทวงเงินค่าตัวที่ไปขึ้นชกในรายการ Worldfight tournament ว่ายังได้เงินไม่ครบขาดอีก 2.2 ล้านบาท


ล่าสุดเน็ตไอดอลสาวชาวกัมพูชา ซึ่งใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า Yada Yada ได้ออกมาระบุว่า ถ้าใครชนะบัวขาวได้ เธอจะแต่งงานด้วย โดยไม่ต้องมาสู่ขอเธอไม่ต้องจ่ายเงินซักเรียล (ค่าเงินกัมพูชา) และจะรักหนุ่มที่มาแต่งงานกับเธอตลอดไป

ส่วนดราม่าเรื่องนี้ หนุ่มบัวขาว ยังไม่ได้รับคำท้าอะไรใดๆ และยังคงพูดถึงประเด็นค่าตัว ที่ทางผู้จัดมวยเขมรยังคิดค้างอยู่ 2.2 ล้านบาท ซึ่งยังไม่ได้จ่ายมา ถ้าจ่ายครบแล้วจะท้าอะไรก็คงต้องดูกันต่อไปจากนี้


เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.ข่าวสยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)


-------------------------------------
เว็ปไซต์นี้จดทะเบียนอิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทะเบียนพาณิชย์


-----------------------------------------------------