ขอนแก่น!!มูลนิธิรักษ์ตับเปิดตัว “Voice for change - หนึ่งเสียง เปลี่ยนชีวิตผู้ป่วยมะเร็งตับ” แคมเปญสะท้อนผลกระทบจากโรค ชวนร่วมลงชื่อผลักดันสิทธิการรักษาด้วยยานวัตกรรม

สยามไทยแลนด์ นิวส์ (ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)

ขอนแก่น!!มูลนิธิรักษ์ตับเปิดตัว “Voice for change - หนึ่งเสียง เปลี่ยนชีวิตผู้ป่วยมะเร็งตับ” แคมเปญสะท้อนผลกระทบจากโรค ชวนร่วมลงชื่อผลักดันสิทธิการรักษาด้วยยานวัตกรรม


“มะเร็งตับ” ถือเป็นภัยเงียบที่คร่าชีวิตคนไทยมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในบรรดาโรคมะเร็งทั้งหมด 
มูลนิธิรักษ์ตับเปิดตัวแคมเปญสะท้อนผลกระทบจากโรคมะเร็งตับ ตั้งเป้าชวนประชาชนร่วมลงชื่อบน change.org 10,000 รายชื่อ เพื่อเร่งผลักดันสิทธิการรักษาพยาบาลของคนไทยให้ครอบคลุมยานวัตกรรมสำหรับโรคมะเร็งตับ กรุงเทพฯ 22 พฤศจิกายน 2565 – ปัจจุบัน โรคมะเร็งตับถือเป็นภัยคุกคามทางสุขภาพอันดับ 1 ของประเทศไทย  ด้วยอุบัติการณ์สูงถึง 27,394 ราย และอัตราการเสียชีวิต 26,704 ราย ภายในปี พ.ศ. 2563 เพียงปีเดียว โดยยอดผู้ป่วยใหม่และเสียชีวิตยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วย ครอบครัวผู้ป่วย ผลิตภาพทางเศรษฐกิจ และระบบสาธารณสุขของประเทศ มูลนิธิรักษ์ตับ ในฐานะกลุ่มผู้ป่วยโรคตับและมะเร็งตับจึงจัดงานเปิดตัวแคมเปญ Voice for Change: หนึ่งเสียง เปลี่ยนชีวิตผู้ป่วยมะเร็งตับ เพื่อผลักดันการเข้าถึงยานวัตกรรมสำหรับโรคมะเร็งตับให้เข้าไปอยู่ในสิทธิการรักษาพยาบาลของคนไทย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยมีอัตราการรอดชีวิตที่ยาวนานขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดความเสียหายอันอาจเกิดจากทรัพยากรมนุษย์ซึ่งเป็นกำลังการผลิตของประเทศ และช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์มีตัวเลือกในการมอบการรักษาที่ได้มาตรฐานสากลให้แก่ผู้ป่วยมะเร็งตับในประเทศไทย 


งานแถลงข่าวเปิดตัวแคมเปญดังกล่าวได้จัดขึ้น ณ ตึกอธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยได้รับเกียรติจาก รศ.พญ.วัฒนา สุขีไพศาลเจริญ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น และประธานมูลนิธิรักษ์ตับ ภายในงานมีการรณรงค์เพื่อเพิ่มความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนทั่วไปถึงผลกระทบจากโรคมะเร็งตับ พร้อมเชิญชวนให้ร่วมลงชื่อสนับสนุนแคมเปญบนเว็บไซต์ change.org เพื่อสะท้อนเสียงของประชาชนที่ต้องการผลักดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตระหนักถึงความสำคัญของยานวัตกรรมที่มีต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งตับ และพิจารณาสิทธิการรักษาพยาบาลของคนไทยให้ครอบคลุมยาที่มีประสิทธิภาพตามหลักมาตรฐานสากล 
ประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคมะเร็งตับสูงที่สุด เมื่อเทียบกับมะเร็งชนิดต่าง ๆ ทั้งนี้ สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพยังระบุว่าโรคมะเร็งตับที่พบในประเทศไทยมีความชุกอยู่ที่ 22.6 คนต่อประชากรหนึ่งแสนคน ซึ่งจัดว่าสูงเป็นอันดับที่ 6 เมื่อเทียบกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก  มะเร็งตับพบได้ทั้งเพศชายและเพศหญิง ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักได้รับการวินิจฉัยเมื่ออายุ 40-70 ปี ปัจจัยเสี่ยงที่อาจนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งตับ ได้แก่ ภาวะตับอักเสบเรื้อรัง การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซี การบริโภคอาหารที่มีไขมันสูงและโรคอ้วน การสูบบุหรี่ การบริโภคแอลกอฮอล์เกินปริมาณที่เหมาะสมซึ่งนำไปสู่โรคตับจากพิษสุราเรื้อรัง รวมถึงการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนสารอะฟลาท็อกซินซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง 


ชนิดของมะเร็งตับที่พบมากที่สุดในประเทศไทย คือ มะเร็งเซลล์ตับ (Hepatocellular carcinoma – HCC) ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 90 โดยผู้ป่วยมักตรวจพบเมื่อโรคอยู่ในระยะลุกลามแล้ว เพราะภาวะตับอักเสบเรื้อรังจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซีมักไม่แสดงอาการ ปัจจุบันนี้ ถึงแม้ว่าจะมีแนวทางการรักษามะเร็งตับที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัด การปลูกถ่ายตับ การอุดหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงก้อนมะเร็ง การรักษาด้วยเคมีบำบัด (Chemotherapy) การรักษาด้วยยามุ่งเป้า (Targeted Therapy) และการรักษาด้วยยาภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) ร่วมกับยาต้านการสร้างหลอดเลือด ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ที่จะเลือกแนวทางการรักษาให้เหมาะสมกับระยะของโรคและความพร้อมทางร่างกายของผู้ป่วยแต่ละคน แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยมะเร็งตับจำนวนไม่น้อยกลับไม่สามารถเข้าถึงยานวัตกรรมเพื่อการรักษามะเร็งตับที่มีผลการวิจัยรับรองถึงประสิทธิภาพด้านการเพิ่มอัตราการรอดชีวิตได้ เนื่องจากข้อจำกัดด้านสิทธิเบิกจ่ายการรักษาพยาบาลของคนไทยที่ยังไม่ครอบคลุม ซึ่งหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขยายโอกาสการเข้าถึงแก่ผู้ป่วยมะเร็งตับมากยิ่งขึ้น ผู้ป่วยอาจไม่ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง สูญเสียความสามารถในการทำงานและการช่วยเหลือตัวเองในชีวิตประจำวัน หรือเสียชีวิตก่อนวัยอันควร


รศ.พญ.วัฒนา สุขีไพศาลเจริญ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น และประธานมูลนิธิรักษ์ตับ  กล่าวว่า “มะเร็งตับถือเป็นภัยเงียบทางสุขภาพที่คุกคามชีวิตของคนไทยจำนวนมากอย่างต่อเนื่องมานับสิบปี เนื่องจากเป็นโรคที่ไม่แสดงอาการในระยะเริ่มต้น ทำให้กว่าผู้ป่วยจะเข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษา โรคมะเร็งตับมักดำเนินไปสู่ระยะลุกลามแล้ว ทำให้ตัวเลือกการรักษาที่เหมาะสมกับระยะของโรคมีอยู่อย่างจำกัด ทุกวันนี้ ผู้ป่วยมะเร็งตับในประเทศไทยนั้นได้รับการรักษาแบบประคับประคอง ซึ่งช่วยยืดการมีชีวิตรอดออกไปได้เพียง 3-6 เดือนเท่านั้น ดังนั้น การรับมือกับโรคมะเร็งตับจึงเป็นความท้าทายของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายในระบบดูแลสุขภาพของประเทศไทย ที่จะต้องร่วมมือกันขับเคลื่อนสิทธิเบิกจ่ายยาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ความรุนแรงของโรคและได้มาตรฐานเทียบเท่าสากล แคมเปญ ‘Voice for Change: หนึ่งเสียง เปลี่ยนชีวิตผู้ป่วยมะเร็งตับ’ เล็งเห็นว่าเสียงสะท้อนจากภาคประชาชนก็มีบทบาทในการผลักดันความเปลี่ยนแปลงต่อเส้นทางการรักษาของผู้ป่วยมะเร็งตับได้เช่นกัน โดยร่วมลงชื่อ 10,000 รายชื่อ สนับสนุนแคมเปญเรียกร้องให้หน่วยงานที่พิจารณาสิทธิการรักษาพยาบาลของไทยให้ตระหนักถึงความสำคัญของยานวัตกรรมที่มีต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งตับ และบรรจุยาที่มีประสิทธิภาพตามหลักมาตรฐานสากลลงในรายการเบิกจ่าย ซึ่งจะช่วยขยายโอกาสการเข้าถึงการรักษาและเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้แก่ผู้ป่วยมะเร็งตับ รวมทั้งลดอัตราการเสียชีวิตของประชากรวัยทำงานก่อนวัยอันควร ซึ่งอาจส่งผลต่อผลิตภาพและการขับเคลื่อนประเทศ” 


มูลนิธิรักษ์ตับ จึงเปิดตัว แคมเปญ ‘Voice for Change: หนึ่งเสียง เปลี่ยนชีวิตผู้ป่วยมะเร็งตับ’ เพื่อสะท้อนผลกระทบจากโรคและผลักดันการเข้าถึงยานวัตกรรมสำหรับโรคมะเร็งตับให้เข้าไปอยู่ในสิทธิการรักษาพยาบาลของคนไทย ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ การรณรงค์บนเว็บไซต์ change.org ซึ่งมีเป้าหมายรวบรวมรายชื่อประชาชนที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงของการรักษาผู้ป่วยมะเร็งตับ การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อวิดีโอในโลกออนไลน์ เพื่อสะท้อนความยากลำบากที่ผู้ป่วยมะเร็งตับและครอบครัวต้องเผชิญ และความสำคัญของเสียงเรียกร้องจากประชาชนที่จะนำไปสู่การพิจารณาสิทธิรักษาพยาบาลให้ครอบคลุม การลงพื้นที่รณรงค์ในกรุงเทพฯ เพื่อขยายการรับรู้ของประชาชนทั่วไปถึงสิทธิการรักษาพยาบาลของคนไทยที่ยังไม่ครอบคลุมยานวัตกรรมสำหรับรักษามะเร็งตับ และเชิญชวนผู้ที่สนใจให้ร่วมลงชื่อบนเว็บไซต์ change.org รวมถึง การลงพื้นที่รณรงค์ในจังหวัดขอนแก่น เนื่องจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอัตราความชุกของโรคมะเร็งตับมากที่สุดในประเทศ โดยประชาชนสามารถร่วมลงชื่อได้ผ่านทางเว็บไซต์ change.org และแบบฟอร์มกระดาษ โดยแคมเปญมีเป้าหมายที่รวบรวมให้ได้ 10,000 รายชื่อ เพื่อนำไปประกอบจดหมายเปิดผนึกและยื่นต่อหน่วยงานภาครัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพิจารณาสิทธิรักษาพยาบาลของคนไทย อันจะนำไปสู่โอกาสในการเข้าถึงตัวเลือกการรักษาที่มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากล ซึ่งมีส่วนช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วย คลายความกังวลใจด้านต่าง ๆ ของผู้ดูแล ลดการสูญเสียทรัพยากรแรงงานของประเทศ และช่วยให้ระบบดูแลสุขภาพของประเทศไทยยรับมือกับภัยคุกคามทางสุขภาพนี้ได้อย่างยั่งยืน


ทุกเสียงมีความสำคัญต่อการผลักดันการพิจารณาสิทธิรักษาพยาบาล ร่วมลงชื่อในแคมเปญ ‘Voice for Change: หนึ่งเสียง เปลี่ยนชีวิตผู้ป่วยมะเร็งตับ’ ทางเว็บไซต์ change.org  






เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.ข่าวสยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)


-------------------------------------
เว็ปไซต์นี้จดทะเบียนอิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทะเบียนพาณิชย์


-----------------------------------------------------


นับถอยหลัง! LAB Future & BIO Expo 2022 งานแสดงเครื่องมือแล็บและไบโอเทคแห่งภูมิภาคลุ่มน้ำโขง พร้อมโชว์นวัตกรรมอนาคต ตอบโจทย์อีสานทุกภาคส่วนวันนี้

สยามไทยแลนด์ นิวส์ (ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)

นับถอยหลัง! LAB Future & BIO Expo 2022 งานแสดงเครื่องมือแล็บและไบโอเทคแห่งภูมิภาคลุ่มน้ำโขง พร้อมโชว์นวัตกรรมอนาคต ตอบโจทย์อีสานทุกภาคส่วนวันนี้
 


     วันที่ 16 พฤศจิกายน 2565, กรุงเทพ – นับถอยหลังอีก 8 วันเท่านั้น! กับงาน “LAB Future & BIO Expo 2022” งานแสดงเครื่องมือแล็บและไบโอเทคแห่งภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ที่ผู้ปฏิบัติงานห้องแล็บ นักธุรกิจ นักลงทุน และเหล่าสตาร์ทอัพจากทุกภาคส่วน หลากหลายหน่วยงานราชการและอุตสาหกรรมต้องห้ามพลาด! ครั้งแรกกับงานแสดงเทคโนโลยี เครื่องมือ เคมีภัณฑ์ และบริการทางห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ และงานนวัตกรรมทางเทคโนโลยีชีวภาพ เพื่อการพัฒนาและการลงทุนในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือและกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง LAB Future & BIO Expo 2022 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-25 พฤศจิกายน 2565 เวลา 1000-1800 น ฮอลล์ 1 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนเเก่น (ไคซ์)
 

LAB Future & BIO Expo 2022 งานแสดงเทคโนโลยี นวัตกรรม และการลงทุนด้านห้องแเล็บและนวัตกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ ที่ครบวงจรมากที่สุดของภาคอีสานและลุ่มน้ำโขง พร้อมต้อนรับผู้ประกอบการ นักลงทุน เจ้าของกิจการ ผู้บริหาร นักอุตสาหกรรม นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์และนักปฏิบัติการทางห้องแล็บในสาขาต่างๆ จากทั่วประเทศ ขณะนี้มีผู้สนใจตอบรับเข้าร่วมชมงานจากาภาคอีสานกว่า 80% โดยในงานจะได้พบผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายชั้นนำกว่า 80 บริษัท 500 แบรนด์ทั่วโลก พร้อมเจรจาธุรกิจ และงานสัมมนาโดยวิทยากรกว่า 50 ท่าน จากหลากหลายวงการ ไม่ว่าจะเป็นด้านการแพทย์และสาธารณสุข เกษตรและปศุสัตว์ อาหารและพลังงาน อุตสาหกรรมการผลิต ฯลฯ  
 

ไฮไลท์ภายในงานพบกับศูนย์นวัตกรรมและวิจัยมิตรผล กับการวิจัยและพัฒนาผลผลิตจากกอ้อย พรีไบโอติกส์ สารอุ้มน้ำจากชานอ้อย  สารสกัดยีสต์ และเกษตรอัจฉริยะ และความร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนา และต่อยอดอุตสาหกรรมเกษตรมูลค่าสูง ส่วนแสดงเทคโนโลยี พร้อมเครื่องมือและหลากหลายเทคนิควิเคราะห์ทางห้องแเล็บที่ทันสมัย อาทิ เทคนิควิเคราะห์หาปริมาณเเอลกอฮอล์ในเลือด การวิเคราะห์หาสิ่งปนเปื้อนโลหะหนัก สารหนู เเคดเมียม เพื่อตรวจสอบคุณภาพของน้ำดื่ม  การหาปริมาณโปรตีน ไนโตรเจน ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เทคนิคการคัดเลือกสายพันธ์พืชและกลุ่มปศุสัตว์ การต้านทานโรค การสกัดสารสำคัญจากพืชสมุนไพร กัญชงกัญชา เครื่องมือการสำรวจธรณีเคมีในภาคสนาม และวัดปริมาณความชื้นในดิน  เทคนิคการวิเคราะห์สารอินทรีย์ระเหยง่าย การเเยกสารผสมในผลิตภัณฑ์ทดเเทนเนื้อสัตว์จากพืช รวมทั้ง อาชีวอนามัย การออกเบบและความปลอดภัยในห้องเเล็บ ฯลฯ ส่วนแสดงนวัตกรรมศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ภาคอีสาน พร้อมเทคนิค บริการและนวัตกรรมด้านกัญชาทางการแพทย์ กัญชาในผลิตภัณฑ์ ชุดทดสอบ การชันสูตรสาธารณะ และ Precision Medicine เป็นต้น
 

 สำหรับโซนนวัตกรรม Food for the Future & Innovation พบความรู้ ความสำเร็จของการพัฒนาธุรกิจ ออกเเบบนวัตกรรมอาหาร จากพืชและแมลง สำหรับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหาร โรงแรมและร้านอาหารโดยเฉพาะ พร้อมพูดคุยในหลากหลายประเด็น อาทิ ศาสตร์ภูมิปัญญาอาหาร โปรตีนจากจิ้งหรีด ฯลฯ โซนเจรจาธุรกิจ ใน Networking Lounge สำหรับผู้สนใจ ที่จะเป็นผู้แทนจำหน่ายในภาคอีสาน และลุ่มน้ำโขง หรือฝ่ายจัดซื้อจัดจ้าง และวางแผนงบประมาณ ทั้งภาครัฐและเอกชน
• การประชุมสัมมนาด้าน LAB Tech และ BIO Tech
o Theater 1: LAB Tech Forum: Application & Methodology
▪ Total Solution for Cannabis-Hemp Extraction & Quality Testing
▪ Smart Lab Technology
▪ The Future of Next Generation Sequencing Technology ฯลฯ
o Theater 2: BIO Focus: Research & Development
▪ การประชุมสัมมนาด้านเทคโนโลยีชีวภาพ โดยสมาคมเทคโนโลยีชีวภาพแห่งประเทศไทย
▪ การประชุมสัมมนาด้านฟิโนมิกส์เพื่อการวิจัยและอุตสาหกรรม
▪ การประชุมสัมมนา โอกาสการลงทุนอุตสาหกรรมฐานชีวภาพในภาคอีสาน ฯลฯ
o Theater 3: BIO Refinery & Medical Application
▪ งานประชุมสัมมนาด้านพลังงานชีวภาพ และพลังงานทางเลือก
▪ งานประชุมด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์และสาธาณสุข
▪ เสวนาธุรกิจของเกษตรกรยุคใหม่ สู่การเพิ่มมูลค่าและเติบโตอย่างยั่งยืน ฯลฯ
o Theater 4: ISAN BIZ Forum: Perspective & Implication
▪ การสัมมนาด้านสุขภาพหนึ่งเดียวในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง
▪ งานอบรมสัมมนาเพื่อยกระดับห้องปฏิบัติการ ฯลฯ
 

ผู้ปฏิบัติงานห้องแล็บ นักวิจัย อาจารย์ นักวิทยาศาสตร์ เทคนิคการแพทย์ ผู้ประกอบการ ผู้บริหาร รวมถึงหน่วยงานราชการทุกระดับ และผู้ที่สนใจอยากเห็นการรวมตัวของกลุ่มนวัตกรรม เทคโนโลยี และเครื่องมือห้องแล็บที่ครอบคลุมทั้งเรื่องพลังงาน เกษตร อาหาร อุตสาหกรรม สาธารณสุข การศึกษา ฯลฯ บนพื้นที่กว่า 3,500 ตารางเมตร ที่มีผู้แสดงงานจากกลุ่มผู้ผลิตและผู้จำหน่ายชั้นนำด้านเครื่องมือเคมีภัณฑ์และบริการทางห้องแล็บ และนวัตกรรมทางไบโอเทค ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมงานประชุม และจับคู่ธุรกิจ เพื่อนำไปพัฒนาในสายงาน และโอกาสทางธุรกิจได้อีกด้วย


 งาน LAB Future & BIO Expo จะจัดขึ้นเพียง 2 วันเท่านั้น ระหว่างวันที่ 24-25 พฤศจิกายน 2565 เวลา 1000-1800 น. ณ ฮอลล์ 1 ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น (ไคซ์) จังหวัดขอนแก่น สามารถลงทะเบียนชมงานล่วงหน้าทั้งแบบรายบุคคลและหมู่คณะได้ที่ www.labfutureexpo.com หรือ www.bioexpo.asia
 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท แอดลิบ แมเนจเม้นท์ จำกัด
คุณสุรีรัตน์ ทรรพวสุ โทร 084 559 4441 / คุณกรรณิการ์ บัวทรัพย์ โทร 089-230 1757
 
195 Empire Tower, 23rd Floor, Room no. 2307
South Sathorn Road, Yannawa, Sathorn, Bangkok 10120
Tel: +662 670 0900  Fax: +662 670 0908
E-mail: petvetasiaexpo@vnuexhibitionsap.com

195 Empire Tower, 23rd Floor, Room no. 2307
South Sathorn Road, Yannawa, Sathorn, Bangkok 10120
Tel: +662 670 0900  Fax: +662 670 0908
E-mail: petvetasiaexpo@vnuexhibitionsap.com

195 Empire Tower, 23rd Floor, Room no. 2307
South Sathorn Road, Yannawa, Sathorn, Bangkok 10120
Tel: +662 670 0900  Fax: +662 670 0908
E-mail: petvetasiaexpo@vnuexhibitionsap.com

195 Empire Tower, 23rd Floor, Room no. 2307
South Sathorn Road, Yannawa, Sathorn, Bangkok 10120
Tel: +662 670 0900  Fax: +662 670 0908
E-mail: petvetasiaexpo@vnuexhibitionsap.com
                           ​    
เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.ข่าวสยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)


-------------------------------------
เว็ปไซต์นี้จดทะเบียนอิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทะเบียนพาณิชย์


-----------------------------------------------------

กสทช.จัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ การติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของ กสทช.

สยามไทยแลนด์ นิวส์(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)

กสทช.จัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ การติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของ กสทช.


      วันที่ 11 พ.ย.2565 ที่ห้องมงกุฎเพชร 1 ชั้น 2 โรงแรมโฆษะ จ.ขอนแก่น ดร.จินตนันท์ ชญาต์ร ศุภมิตร กรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน(กตป.) ด้านกิจการโทรทัศน์ เป็นประธานในพิธีกล่าวเปิดงาน “การประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (Public Hearing) การติดตามและประเมินผลการดำเนินการและการบริหารงานของ กสทช. สำนัก งาน กสทช. และเลขาธิการ กสทช.ด้านกิจการโทรทัศน์ ประจำปี 2565” พร้อมด้วย ผศ.ดร.ชยกฤต อัศวธิตานนท์ หัวหน้าโครงการ กล่าวรายงานความเป็นมาของโครงการ โดยมีกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ หน่วยงานราชการ สื่อมวลชน ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ผู้ประกอบการด้านการค้าชายแดน เกษตรกร บุคลากรจากสถาบันการศึกษา เจ้าหน้าที่และบุคลากรด้านสาธารณสุข ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ผู้นำชุมชน รวมทั้งเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคใน จ.ขอนแก่น และจังหวัดอื่นๆ ในภาคอีสานสนใจเดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก


ดร.จินตนันท์ ชญาต์ร ศุภมิตร กล่าวว่า “การจัดงานครั้งนี้ จัดโดยคณะกรรมการติดตามและประ เมินผลการปฏิบัติงาน หรือ กตป. ได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรม การกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. และมหา วิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดประชุมขึ้นเพื่อรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ(Public Hearing) การติดตามและประเมินผลการดำเนินการและการบริหารงานของ กสทช. เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทุกภาคส่วน”


สำหรับการประชุมในวันนี้ แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงแรกจะเป็นการนำเสนอกระบวนการติดตามและประ เมินผลการดำเนินการและการบริหารงานของ กสทช. สำนักงาน กสทช. และเลขาธิการ กสทช. ด้านกิจการโทรทัศน์ ประจำปี 2565 และช่วงที่ 2 จะเป็นการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ(workshop) โดยจัดรูปแบบกลุ่มย่อย และระดมความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมประชุม ด้านกระบวนการดำเนินงาน ผลลัพธ์ ผลกระทบเชิงบวก/เชิงลบจากการเข้าร่วมโครงการ เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาการทำงานของ กสทช.ต่อไป


ทั้งนี้ ผศ.ดร.ชยกฤต อัศวธิตานนท์ ได้กล่าวด้วยว่า “การดำเนินงานของ กสทช.มุ่งดำเนินการจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการวิทยุ กระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมน าคม เพื่อให้ประชาชนได้รับสิทธิและเสรีภาพในการเข้าถึงและใช้ประโยชน์คลื่นความถี่ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้อย่างทั่วถึงเป็นธรรม รวมถึงท้องถิ่นทุรกันดารของประเทศไทยมีสิทธิในการรับบริการด้านการสื่อสาร ขั้นพื้นฐานและด้านเทคโน โลยีสารสนเทศและการสื่อสารอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อใช้ในการดำรงชีวิต ทำมาหากิน ทำธุรกิจและพัฒนาเศรษฐกิจของชาติในภาพรวมด้วย”.






เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.ข่าวสยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)


-------------------------------------
เว็ปไซต์นี้จดทะเบียนอิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทะเบียนพาณิชย์


-----------------------------------------------------


ปริญญ์ CEO นำทัพแบรนด์ร็อคกิงคิดส์ พิสูจน์ความสำเร็จ เจ้าแรกในประเทศไทย กลยุทธ์ Mommy Helper - ผู้ช่วยตัวจริงในการเลี้ยงลูก ซัคเซส


สุดปัง !!  คว้ารางวัล BEST CAR SEAT สินค้าคุณภาพ +บุคคลคุณภาพแห่งปี  2022  ตอบโจทย์พ่อแม่ยุคใหม่ เฟ้นโปรดักส์คุณภาพ/ความปลอดภัยสูงป้อนตลาดแม่และเด็กยาวนานกว่า 8 ปี

กรุงเทพมหานคร  :  น่าจับตามองแบรนด์  Rocking Kids -ร็อคกิงคิดส์  ธุรกิจที่เติบโตก้าวกระโดดเข้าสู่ปีที่  8   จากการจำหน่ายสินค้าผ่านเว็บไซต์  กระแสตอบรับดีเกินคาดและลูกค้าให้ความไว้วางใจอย่างต่อเนื่อง เจาะกลุ่มพ่อแม่คนรุ่นใหม่  สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในจังหวัดมหาสารคาม  สร้างความแตกต่างไอเดียสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศที่มีคุณภาพความหลากหลายเสิร์ฟเพื่อลูกลูกอย่างแท้จริง รวมถึงวางระบบบริการด้านคำปรึกษาบุคลากรเชี่ยวชาญเน้นการใส่ใจลูกค้าทุกคนด้วยความจริงใจเพื่อแนะนำวิธีเลือกอุปกรณ์เลี้ยงลูกที่จะเป็นตัวช่วยแม่มือใหม่ให้ชีวิตง่าย เพิ่มความสุขรอยยิ้มในการเลี้ยงลูกด้วยหลักการเลือกซื้ออุปกรณ์เสริมให้ลูกลูกด้วยสินค้าคุณภาพ แบรนด์ร็อคกิงคิดส์ให้ความสำคัญในทุกปัญหาแก่คุณพ่อคุณแม่ เสมือนเป็นผู้ช่วย  ลูกค้าทุกท่านจึงพอใจทำให้เกิดกลยุทธ์บอกต่อให้แก่แบรนด์ในวงกว้างทั้งในออฟไลน์และสังคมออนไลน์ปัจจุบันมี SHOPแห่งแรก  Rocking Kids Store ณ  ศูนย์การค้าเมกาบางนา
              
               

นายปริญญ์ เสริมพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ร็อคกิงคิดส์ (ประเทศไทย) จำกัด  เปิดเผยว่า “ แบรนด์ ร็อคกิง คิดส์ ดำเนินธุรกิจก้าวสู่ปีที่  8 ด้วยยึดมั่นในการคัดสรรสินค้ามีคุณภาพ คำนึงถึงคุณประโยชน์ในการเลี้ยงลูกและความปลอดภัยมาลำดับแรก วางกรอบกลยุทธ์การตลาด Mommy Helper- ผู้ช่วยตัวจริงในการเลี้ยงลูก ประสบความสำเร็จได้รับความนิยมจากกลุ่มเป้าหมายคือคุณพ่อคุณแม่
 
            ความโดดเด่ดแบรนด์ร็อคกิงคิดส์ ชูการวางกลยุทธ์การจำหน่ายสินค้านำเข้าที่ได้รับความนิยมจากทั่วทุกมุมโลก เช่น ประเทศอังกฤษ , ประเทศเยอรมนี, ประเทศเกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกา ภายใต้ชื่อแบรนด์ Apramo, Ggumbi , Qtus, Unilove, Essian, Miniware, Todbi และ Bibado ที่ออกแบบด้วยความรัก ความใส่ใจ ปัจจุบันมีจำหน่ายสินค้ากว่า 170 รายการ  
               

           ทั้งนี้สินค้าในพอร์ตของบริษัทยังกวาดรางวัลมาตรฐานความพึงพอใจต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ล่าสุด ในปี 2022 สินค้ากลุ่มคาร์ซีท แบรนด์ Apramo ได้รับรางวัล BEST CAR SEAT Apramo (RockingKids) จากงานประกาศรางวัล Amarin Baby & Kids Fest 2022 ซึ่งเป็นสินค้ากลุ่มคาร์ซีทถือว่าเป็น Brand Top Of Mind  จากผลโหวตคุณแม่ตัวจริง  30,000 ท่านทั่วประเทศ   รางวัลนี้ทำให้ตัวผมและทีมงานหัวใจฟูอย่างมาก จากการทุ่มเทในการคัดสรรสินค้าเพื่อลูกค้า บริษัทฯ เชี่ยวชาญรวมถึงมีบุคลากรเพื่อดูแลให้คำปรึกษาคุณพ่อแม่ในรูปแบบออนไลน์ หรือภายในช้อปที่ศูนย์การค้าเมกะบางนา

          ผมจึงมั่นใจในความเชี่ยวชาญการเป็นผู้ช่วยเรื่องการเจริญเติบโตของลูกลูก ในแต่ละช่วงวัยเด็ก จากประสบการณ์ส่วนตัวผมมีลูก ทำให้การเลือกผลิตภัณฑ์มาดูแลลูก ในช่วงวัยที่กระดูกและกล้ามเนื้อยังพัฒนาไม่สมบูรณ์อุปกรณ์เหล่านี้จำเป็นต้องมีโครงสร้างที่คอยพยุงร่างกายของทารกให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมเพื่อให้ทารกเติบโตอย่างเป็นปกติ การใช้งานสำหรับเด็กในแต่ละช่วงวัย รวมไปถึงการติดตั้ง ทีมงานของร็อคกิงคิดส์สามารถให้คำแนะนำได้เป็นอย่างเชิงลึก เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจ อีกทั้งในระดับนานาชาติ สินค้าแทบทุกรายการของบริษัทยังได้รับรางวัลคุณภาพในด้านต่างๆ ตอกย้ำในเรื่องคุณภาพ ดีไซน์ และความปลอดภัยสูงสุด  ผมขอขอบคุณลูกค้าที่เป็นคุณพ่อคุณแม่ ทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจในการเลือกซื้อสินค้าของบิรษัทฯอย่างต่อเนื่องด้วยดีเสมอมา”



               คุณปริญญ์ กล่าวเสริมว่า “ กลุ่มอุปกรณ์คาร์ซีท รถเข็น เก้าอี้นั่ง  นับเป็นอุปกรณ์เสริมสำคัญช่วยให้คุณพ่อคุณแม่เหนื่อยน้อยลง มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ให้ลูกกิน อิ่ม นอนหลับ ย่อมความสำคัญมามาก มีผลต่อการพัฒนาการของลูกลูก ยิ่งเด็กวัยเตาะแตะหรือมีอายุประมาณ 1-3 ปี เด็กจะเริ่มคลาน รับประทานอย่างอื่นนอกจากนม หัดเดิน หรือฝึกเข้าห้องน้ำแบบผู้ใหญ่ ซึ่งอาจเป็นงานหนักสำหรับคุณแม่ การจัดเตรียม อุปกรณ์ช่วยเลี้ยงลูกที่จำเป็น มีความสำคัญมากๆ ไล่ไปจาก เครื่องนอน  อุปกรณ์รับประทานอาหาร  อุปกรณ์อาบน้ำ ของเล่น รถเข็นเด็ก คาร์ซีท คอกกั้นเพื่อความปลอดภัย โถฝึกเข้าห้องน้ำสำหรับเด็ก น้ำยาล้างจานและผงซักฟอกสำหรับเด็ก คือ ทุกอย่าง คุณพ่อแม่ต้องวางแผนในการเลือกซื้อ ที่ตอบโจทย์การใช้งานและความคุ้มค่า ทำให้พ่อแม่มีเวลาทำกิจกรรมอื่นๆ ยิ่งในยุคนี้ พ่อแม่ work from home กันมากขึ้น การเลือกของใช้ที่จำเป็น เพื่อสร้างพื้นที่แห่งความปลอดภัยและพัฒนาการของลูก”
  
               “ไตสมาสสุดท้ายของปี 2022 ผมปลื้มอีกหนึ่งรางวัลจากมูลนิธิสภาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย  สาขารางวัล บุคคลคุณภาพแห่งปี 2022 (Quality Persons Of The Year 2022 ) ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก ระยะเวลา 8 ปีผมพิสูจน์ด้านการทำงานที่ทุ่มเท ใส่ใจทุกรายละเอียดโปรดักส์ทดสอบจนมั่นใจก่อนจำหน่ายสินค้าให้แก่ลูกค้า  เกิดแรงบันดาลใจสร้างสรรค์การทำตลาดมุ่งความแตกต่างคัดสรรสินค้ารวมถึงวางแผลกลยุทธ์ลงลึกด้านคอนเทนต์ข้อมูลเพื่อสร้างความเข้าใจกับลูกค้ากลุ่มคุณแม่คุณพ่อ  บริษัทเล็กเล็กแห่งนี้ วางให้สินค้าตอบโจทย์ลูกค้าด้วยคุณภาพ  จึงยึดหลักในการบริหารจัดการแบบองค์กรสมัยใหม่   ใส่ใจเรื่องการตั้งเป้าหมาย และติดตามผลในสิ่งที่สำคัญ โดยสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดขึ้นกับทีมบริหาร และพนักงาน เกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องรร่วมกัน   ผมมุ่งเน้นในการคิดเชิงวิเคราะห์ และเข้าใจความต้องการของลูกค้า มีการพัฒนาและแบ่งปันองค์ความรู้ในการเลี้ยงลูก ผสมผสานทั้งออฟไลน์และออนไลน์ 

              ด้านพนักงานแบรนด์ร็อคกิงคิดส์ มุ่งฝึกฝนให้ทุกคนสามารถเป็นผู้ช่วยคุณแม่ ในการให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์

เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.ข่าวสยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)

-------------------------------------
เว็ปไซต์นี้จดทะเบียนอิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทะเบียนพาณิชย์


-----------------------------------------------------

DGA มอบรางวัล DIGI Data Awards 2022 ส่งเสริมหน่วยงานรัฐ เปิดเผยข้อมูลเพื่อประโยชน์ต่อยอดในภาคเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ

สยามไทยแลนด์ นิวส์ (ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)

DGA มอบรางวัล DIGI Data Awards 2022 ส่งเสริมหน่วยงานรัฐ เปิดเผยข้อมูลเพื่อประโยชน์ต่อยอดในภาคเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ


      สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์กรมหาชน) หรือ DGA จัดงานมอบรางวัล “ข้อมูลเปิดภาครัฐ” ประจำปี 2565 หรือ DIGI Data Awards 2022 ให้กับหน่วยงานที่เปิดเผยชุดข้อมูลเปิดภาครัฐผ่านเว็บไซต์ data.go.th เพื่อส่งเสริม สนับสนุน การสร้างเครือข่าย และแบ่งปันประสบการณ์การใช้ประโยชน์จากข้อมูลเปิดระหว่างหน่วยงานรัฐ ให้ตระหนักและเห็นความสำคัญของการเปิดเผยข้อมูล ซึ่งได้จัดงานเมื่อวันที่  7 พฤศจิกายน 2565 ณ โรงแรมอโนมา แกรนด์ กรุงเทพ


ดร.ชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานในพิธี กล่าวว่า “รัฐบาลได้ให้ความสำคัญการเปลี่ยนผ่านไปสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล และกุญแจสำคัญประการหนึ่งในการขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัล คือ “ข้อมูลเปิดภาครัฐ” เนื่องจากเป็นกลไกที่จะส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชน สร้างความโปร่งใสและยังเป็นพื้นฐานการนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์เพื่อต่อยอดในภาคเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศอีกด้วย การจัดงานในครั้งนี้ ถือได้ว่าจะเป็นแบบอย่างที่ดีในการเตรียมชุดข้อมูลเปิดมาเผยแพร่ในระบบ data.go.th ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลและเป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์ชาติ  ที่มุ่งเน้นการเปิดเผยข้อมูลและการใช้ประโยชน์ของข้อมูลขนาดใหญ่ (big data) เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้นำข้อมูลไปใช้และก่อให้เกิดนวัตกรรมใหม่จากข้อมูลและสามารถนำประเทศไทยไปสู่การเป็นภาครัฐที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลในที่สุด (Data Driven Government)

 

ดร.สุพจน์ เธียรวุฒิ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล กล่าวเพิ่มเติมว่า “DGA ได้จัดตั้งสถาบันนวัตกรรมและธรรมาภิบาลข้อมูล หรือ Data Innovation & Governance Institute หรือ DIGI (ดิจิ) เพื่อส่งเสริมการเปิดเผยข้อมูลของหน่วยงานรัฐให้มีการาจัดทำชุดข้อมูลให้เป็นมาตรฐานสากลและสอดคล้องตามแนวทางหลักของ “ธรรมาภิบาลข้อมูล” โดยสถาบันดิจิ มีภาระสำคัญในการส่งเสริมระบบนิเวศข้อมูล (Data Ecosystem) ตั้งแต่การส่งเสริมและพัฒนาทักษะบุคลากรภาครัฐให้มีความรู้และให้คำปรึกษาการจัดข้อมูลภาครัฐให้มีคุณภาพตามกรอบธรรมาภิบาล และนำไปสู่การเปิดเผย เชื่อมโยง แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานรัฐ ตลอดจนการส่งเสริมให้มีการนำข้อมูลชุดมาเปิดเผย และนำไปใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า และสร้างเสริมชุมชนผู้ให้ประโยชน์ข้อมูลเปิดอย่างเป็นรูปธรรม “Open Data Community” ตลอดจนรับผิดชอบแพลตฟอร์มกลางข้อมูลภาครัฐ หรือ data.go.th เพื่อทำหน้าที่รวบรวมและติดตามชุดข้อมูลเปิดจากหน่วยงานต่างต่างในลักษณะ One Stop Service โดย ณ ปัจจุบันมีชุดข้อมูลเปิดภาครัฐ กว่า 7,800 ชุด”  


สำหรับรางวัล DIGI Data Awards 2022ปีนี้จัดขึ้นเพื่อมอบรางวัลให้กับหน่วยงานที่จัดทำข้อมูลมาเปิดเผยบนแพลตฟอร์มกลางข้อมูลเปิดภาครัฐ หรือ data.go.th เพื่อเป็นรางวัลส่งเสริมความมุ่งมั่นการจัดทำชุดทำข้อมูลของหน่วยงานรัฐ ตลอดจนเป็นสัญลักษณ์ความร่วมมือในการขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัลภายใต้แนวคิด “Data Driven Government” รางวัลดังกล่าวนี้นอกจากเป็นการส่งเสริมความมุ่งมั่นของหน่วยงานรัฐแล้ว ยังได้มอบรางวัลส่งเสริมชุดข้อมูลเปิดที่สำคัญและเป็นที่นิยมโดยคัดเลือกจากชุดข้อมูลที่มีอันดับการดาวน์โหลดสูงสุดจากผู้ใช้บริการแพลตฟอร์มกลาง data.go.th ในอีกทางหนึ่งด้วย ความคาดหวังของการมอบรางวัลในครั้งนี้ต้องการมุ่งเน้นให้เกิดการฝึกฝนของเจ้าหน้าที่รัฐในหน่วยงานที่ถือครองชุดข้อมูลต่างต่างในหน่วยงานว่า ข้อมูลที่หน่วยงานถือครองไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์เฉพาะในหน่วยงานเท่านั้น หากแต่ยังจะเพิ่มมูลค่ามากยิ่งขึ้น เมื่อนำข้อมูลที่ถือครองมาเปิดเผยข้อมูลระหว่างหน่วยงานรัฐด้วยกัน หรือแม้กระทั่งภาคประชาชน สังคม และเศรษฐกิจ ที่นำไปต่อยอดจะสามารถเพิ่มมูลค่าของชุดข้อมูลได้เช่นกัน และที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ การส่งเสริมให้เกิดเครือข่ายชุมชนผู้ใช้ประโยชน์ของข้อมูลระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐ ระหว่างหน่วยงาน และความร่วมมือของภาคประชาคม นอกจากนี้ยังมีการผลักดันการจัดทำบัญชีช้อมูล หรือ Data Catalog โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.)สนับสนุนให้หน่วยงานรัฐมีทะเบียนบัญชีชุดข้อมูลเป็นของตนเอง ผ่านกระบวนการธรรมาภิบาลข้อมูล ส่งเสริมให้เกิดชุดข้อมูลเปิด ที่มีเป็นมาตรฐานและมีคุณภาพอีกเป็นจำนวนมาก

 

รางวัล DIGI Data Award 2022 ในครั้งนี้มีการมอบรางวัลรวมทั้งสิ้น 58 รางวัล แบ่งเป็น 2 ประเภท ประเภทที่ 1 โล่เกียรติคุณ 9 รางวัลได้แก่


1)     หน่วยงานที่มีชุดข้อมูลเปิดยอดนิยมประจำปีงบประมาณ 2565 ( DIGI TOP DATA AWARD WINNERS) จำนวน 3 รางวัล ได้แก่  กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ , การทางพิเศษแห่งประเทศไทย , การกีฬาแห่งประเทศไทย


2)     รางวัลชุดข้อมูลยอดนิยมตลอดกาล (DIGI EXCELENCY DATA AWARD WINNERS) จำนวน 3 รางวัล ได้แก่ กรมควบคุมโรค สำนักงานสถิติแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร


3)     รางวัลพิเศษ (EXCELLENT  OPEN DATA HUB AWARD WINNERS) สำหรับหน่วยงานที่รวบรวมชุดข้อมูลเปิดภาครัฐเพื่อเผยแพร่ จำนวน 3 รางวัล ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง ,  สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร และ การเคหะแห่งชาติ


และประเภทที่  2 ประกาศนียบัตรชุดข้อมูลเปิดทรงคุณค่า จำนวน 49 รางวัล สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ digi.data.go.th 

 

นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมพิเศษ “ DIGI TALK ”  2 ช่วงด้วยกันได้แก่ ช่วงที่ 1 บรรยายโดย ดร.มนต์ศักดิ์ โซ่เจริญธรรม ผู้อำนวยการสถาบันนวัตกรรมและธรรมาภิบาลข้อมูลภายใต้หัวข้อ Objective and Achievement ซึ่งมาบอกเล่าถึงภารกิจหลักของสถาบัน DIGI เป้าหมาย การดำเนินงาน ผลการดำเนินงาน และกิจกรรมที่มีต่อไป และช่วงที่ 2 จะเป็นการเสวนาในหัวข้อ Review and Preview ภาครัฐไทยกับการขับเคลื่อนด้วย Data ร่วมเสวนาโดย ดร.เฉลิมศักดิ์ เลิศวงศ์เสถียร ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง , ดร.กาญจนา ขวัญเมือง ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลเกษตรแห่งชาติ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรและร.ท.ชัยรัตน์ ทองบริบูรณ์ รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ ซึ่งมาร่วมพูดคุย Review วิธีการขับเคลื่อนให้เกิด Data Driven Government และผลสำเร็จ พร้อมแนะนำถึงบริการเกี่ยวกับด้าน Open Data Hub ที่กำลังพัฒนา

เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.ข่าวสยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)


-------------------------------------
เว็ปไซต์นี้จดทะเบียนอิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทะเบียนพาณิชย์


-----------------------------------------------------