"สมอ. กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากภาคอีสาน แจก มอก.เอส มผช. ให้ SMEs พร้อมจับมือตลาดขอนแก่นขายสินค้า มอก. ถูกกฎหมาย”

สยามไทยแลนด์ นิวส์ (ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)

"สมอ. กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากภาคอีสาน แจก มอก.เอส มผช. ให้ SMEs พร้อมจับมือตลาดขอนแก่นขายสินค้า มอก. ถูกกฎหมาย” 


      สมอ. กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากภาคอีสาน มอบใบรับรอง มอก.เอส  มผช.  ให้ SMEs ยกระดับสินค้าบริการให้ได้มาตรฐาน พร้อมจับมือ 9 ตลาดเมืองขอนแก่น เซ็นเอ็มโอยูขายสินค้า มอก. ในงาน “สมอ. สัญจร” จังหวัดขอนแก่น

นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า สมอ. ให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการ SMEs และผู้ผลิตชุมชน ซึ่งเป็นฟันเฟืองสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ โดยร่วมกับสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศส่งเสริมและพัฒนาให้ความรู้ด้านการมาตรฐาน เพื่อยกระดับสินค้าและบริการของผู้ผลิตชุมชนและผู้ประกอบการ SMEs ให้มีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐาน ทั้งมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) และมาตรฐานอุตสาหกรรมเอส (มอก.เอส) เพื่อเป็นหลักประกันคุณภาพและความปลอดภัยให้กับผู้บริโภค โดยเฉพาะ มอก.เอส ที่ สมอ. ได้เน้นย้ำและผลักดันให้เกิดความยั่งยืน โดยประกาศเป็นนโยบายสำคัญในการดำเนินงาน ซึ่งปัจจุบัน สมอ. ได้กำหนดมาตรฐาน มอก.เอส และประกาศใช้แล้วจำนวน 209 มาตรฐาน แบ่งเป็นมาตรฐานสินค้า 111 มาตรฐาน มาตรฐานการบริการ 98 มาตรฐาน และให้การรับรองคุณภาพสินค้าและบริการแล้วจำนวน 108 ราย ขณะเดียวกันมีผู้ประกอบการ SMEs ที่ยื่นขอการรับรองกับ สมอ. ผ่านทางระบบออนไลน์อีกจำนวน 200 ราย ที่ สมอ. ต้องเร่งดำเนินการตรวจประเมินเพื่อให้การรับรองให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายนนี้


เลขาธิการ สมอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อผู้ประกอบการผ่านการรับรองแล้ว สมอ. จะจัดให้มีพิธีมอบใบรับรองเนื่องในโอกาสต่างๆ เช่น กิจกรรม สมอ. สัญจร ที่ สมอ. ได้บูรณาการภารกิจลงสู่พื้นที่ภูมิภาคให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ SMEs และผู้ผลิตชุมชน โดยในปีงบประมาณนี้ได้จัดมาแล้ว 2 ครั้ง ที่จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดสุโขทัย ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 จัดขึ้นที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งได้จัดให้มีพิธีมอบใบรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมเอส แก่ SMEs จำนวน 24 ราย หลากหลายสินค้าและบริการ เช่น ดอกไม้ประดิษฐ์จากวัสดุธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์จากกก น้ำมันนวดตัวสำหรับสปา การบริการหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว การบริการตรวจสภาพรถยนต์ ซ่อมบำรุงรถยนต์ ติดฟิล์มรถยนต์ ออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้า ตัดแต่งทรงผม ร้านกาแฟ การบริการโรงแรม/รีสอร์ท และให้เช่าที่พักอาศัย เป็นต้น และมอบใบรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนแก่ผู้ผลิตชุมชน จำนวน 24 ราย ส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภทผ้า เช่น ผ้ามัดหมี่ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าขาวม้า ผ้าห่มนอนทอมือ ผ้าทอลายขัด และสินค้าอื่น ๆ โดยทั้งหมดเป็นผู้ประกอบการและผู้ผลิตชุมชนในจังหวัดขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ หนองบัวลำภู ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์


นอกจากนี้ สมอ. ยังได้จัดการสัมมนาเพื่อให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการทุกระดับ ทั้งผู้ประกอบการขนาดใหญ่ SMEs ผู้ผลิตชุมชน และร้านจำหน่าย รวมถึงสื่อมวลชน เพื่อให้มีความรู้ด้านการมาตรฐาน และสามารถนำความรู้ดังกล่าวไปประยุกต์ใช้ต่อไป รวมทั้งตรวจควบคุมตามกฎหมายพร้อมให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ รวมถึงสถานที่จำหน่าย ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา และขอนแก่น จำนวนกว่า 60 ราย เพื่อให้ความรู้ทั้งด้านวิชาการและข้อกฎหมายที่ถูกต้อง กำกับดูแลและป้องปรามผู้กระทำผิด ตลอดจนตรวจประเมินผู้ประกอบการมาตรฐานอุตสาหกรรมเอส ในเขตพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู จำนวน 4 ราย นครราชสีมา 4 ราย บุรีรัมย์ 4 ราย ชัยภูมิ 1 ราย สุรินทร์ 2 ราย และขอนแก่น 1 ราย และตรวจประเมินเบื้องต้นเพื่อเตรียมความพร้อมในการยื่นขอการรับรอง มอก.เอส แก่ผู้ประกอบการ SMEs ในเขตพื้นที่จังหวัดขอนแก่น สระบุรี นครราชสีมา สุรินทร์ และบุรีรัมย์ จำนวน 12 ราย อีกด้วย


“นอกจากกิจกรรมดังกล่าวข้างต้น สมอ. ยังจัดให้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เรื่อง “การส่งเสริมผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อยให้จำหน่ายสินค้ามาตรฐาน มอก. เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค” ระหว่าง สมอ. กับเทศบาลนครขอนแก่น และผู้ประกอบการตลาดในจังหวัดขอนแก่นรวม 9 ตลาด ได้แก่ ตลาดเทศบาล 1 ตลาดเทศบาล 2 (ตลาดเจ้าพ่อทองสุข) ตลาดเทศบาล 3 (ตลาดโบ๊เบ๊) ตลาดหนองไผ่ล้อม ตลาดโต้รุ่งร่วมจิตร ตลาดบางลำพู ตลาดรถไฟ ตลาดศรีเมืองทอง และ ตลาด อ.จิระ เพื่อร่วมกันส่งเสริมความรู้ด้านการมาตรฐานให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อยภายในตลาดของตนเอง ให้จำหน่ายสินค้าที่ได้มาตรฐาน มอก. ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อมิให้เกิดการกระทำความผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ รวมทั้งเฝ้าระวังมิให้มีการจำหน่ายสินค้าที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ตลอดจนแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารให้กับผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อย เพื่อให้สามารถเลือกสินค้าที่ได้มาตรฐานมาจำหน่ายได้อย่างถูกต้อง เพื่อประโยชน์ในด้านการคุ้มครองผู้บริโภคต่อไป ทั้งหมดนี้เป็นกิจกรรม สมอ. สัญจร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งต่อไป สมอ. จะลงใต้ไปพบกับผู้ประกอบการในภาคใต้ เตรียมพบกันที่จังหวัดนครศรีธรรมราชในเดือนพฤษภาคมนี้ครับ ” 






ข่าวโดย : เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.ข่าวสยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)


-------------------------------------
เว็ปไซต์นี้จดทะเบียนอิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทะเบียนพาณิชย์


-----------------------------------------------------

นายกสโมสรโรตารีแก่นคูน มอบสมุนไพรฟ้าทลายโจร 5,000 แคปซูล ให้กับหน่วยงานราชการ จ.ขอนแก่น

สยามไทยแลนด์ นิวส์ (ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)

นายกสโมสรโรตารีแก่นคูน มอบสมุนไพรฟ้าทลายโจร 5,000 แคปซูล ให้กับหน่วยงานราชการ จ.ขอนแก่น


      เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2565 นย.โตบูรพา สิมมาทัน นายกสโมสรโรตารีแก่นคูนและสมาชิกสโมสรโรตารีแก่นคูน รทร.ธเนศ บุญโท รักษาการณ์เลขานุการ รทร.ปรีดิยาธร แคลป ผู้ช่วยเลขานุการ
ได้ส่งมอบยาฟ้าทะลายโจรแก้ไข้ไปยังหน่วยงานดังนี้
1.เทศบาลตำบลท่าพระ   1,000แคปซูลโดยมีนายพิสุทธิ์​ อนุตรอังกูร​ นายกเทศมนตรี​เทศบาลตำบล​ท่าพระ​ เป็นผู้รับมอบ
2.รพ.สต.เมืองเก่า   1,000 แคปซูล​ ​โดยมีนายอดุลย์​กงสะเด็น ผู้บริหาร​เป็นผู้รับมอบพร้อมคณะ
3.หน่วยบริการปฐมภูมิ สามเหลี่ยม 1,000 แคปซูล​โดยมีนางราณี​ แสงจันทร์​นวล​หัวหน้าหน่วยเป็นผู้รับมอบ 
4.เทศบาลนครขอนแก่น  1,000แคปซูล​โดยมีนายธีรศักดิ์​ ฑีฆายุพันธ์​ นายกเทศมนตรี​เทศบาลนครขอนแก่น​เป็นผู้รับมอย
5.หน่วยบริการปฐมภูมิ 123 มหาวิทยาลัยขอนแก่น จำนวน 1,000 แคปซูล โดยมี​พว.สะอาด​โยธาทูน​หัวหน้าหน่วย​เป็นผู้รับมอบ  รวม 5,000 แคปซูล  พร้อมๆกับสิ่งของอื่นๆอาทิ เจล แอลกอฮอล์ เป็นต้น






เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.ข่าวสยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)


-------------------------------------
เว็ปไซต์นี้จดทะเบียนอิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทะเบียนพาณิชย์


-------------------------------------------------


“เจ้าท่าขอนแก่นรักษ์น้ำ ปล่อยปลา รักษาสิ่งแวดล้อม”ปล่อยพันธุ์ปลา 190,000 ตัว

สยามไทยแลนด์ นิวส์ (ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)

“เจ้าท่าขอนแก่นรักษ์น้ำ ปล่อยปลา รักษาสิ่งแวดล้อม”ปล่อยพันธุ์ปลา 190,000 ตัว


      วันที่ 11 เมษายน 2565 เวลา 10.15 น.พิธีเปิดโครงการ“เจ้าท่าขอนแก่นรักษ์น้ำ ปล่อยปลา รักษาสิ่งแวดล้อม” ปล่อยพันธุ์ปลาจำนวน 190,000 ตัว โดยมี นายวิเชียร เปมานุกรณ์รักษ์ ผู้อำนวนการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 7 เป็นประธานในพิธี พร้อมหน่วยงานราชการ ภาครัฐและภาคเอกชน เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้


นายกเทศบาลตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ กล่าวกระผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาขอนแก่น กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ให้เกียรติเทศบาลตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ เป็นสถานที่จัดโครงการ “เจ้าท่าขอนแก่นรักษ์น้ำ ปล่อยปลา รักษาสิ่งแวดล้อม”โดยทำการปล่อยปลา จำนวน 190,000 ตัว ในวันนี้ เทศบาลตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ มีการพัฒนาสร้างความสมดุลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้มีคุณภาพและยั่งยืนเพื่อรักษาสภาพสิ่งแวดล้อมให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ตอบสนองความต้องการพัฒนาและเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งภายในปี 2567 เทศบาลตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ เป็นเมืองท่องเที่ยว ที่น่าอยู่ที่สุดของจังหวัดขอนแก่น โดยยกระดับคุณภาพชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์กับคุณค่าทางวัฒนธรรมและความเป็นอัตลักษณ์ของท้องถิ่น สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 7 กรมเจ้าท่า จึงมีนโยบายให้หน่วยงานจัดกิจกรรมเพื่อสร้างความสามัคคีและมิตรภาพที่ดีระหว่างองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน ให้เกิดความเข้มแข็งและเป็นประโยชน์ต่อสังคม อาทิ การปลูกป่า การปล่อยพันธุ์ปลาท้องถิ่นลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาเพื่อให้ชุมชนอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืนตามแนวพระราชดำริ 
               โครงการ “เจ้าท่าขอนแก่นรักษ์น้ำ ปล่อยปลา รักษาสิ่งแวดล้อม” เป็นการเสริมสร้างคุณธรรมด้านจิตอาสาการฟื้นฟูแหล่งน้ำใน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งอยู่ภายใต้โครงการ “ จภ.7 พัฒนา 7 แหล่งน้ำ นำอีสานเขียว ส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนวิถีใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” เช่น การปล่อยปลา ปลูกต้นไม้ ขุดลอกฟื้นฟูแหล่งน้ำ เป็นต้น
ผมขอขอบคุณสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาขอนแก่น กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ที่เห็นถึงความสำคัญของอำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น และขอขอบคุณในความร่วมมือของทุกท่านที่ได้ร่วมกันจัดโครงการ “เจ้าท่าขอนแก่นรักษ์น้ำ ปล่อยปลา รักษาสิ่งแวดล้อม” บริเวณสะพานปลาบ้านท่าเรือ (บริเวณศาลาอเนกประสงค์ หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดเขื่อนอุบลรัตน์) กระผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการดำเนินการโครงการในครั้งนี้ จะประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์และเกิดประโยชน์ต่อชุมชนและ    จังหวัดขอนแก่น ต่อไป ขอขอบคุณครับ


นายอำเภออุบลรัตน์ กล่าวเปิดงานในพิธี นมัสการเจ้าคณะอำเภออุบลรัตน์ พระมหาจริทธิ์ วชิรเมธี ท่านผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 7 ท่านวิเชียร  เปมานุกรรักษ์ ท่านผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดขอนแก่น ท่านสมศักดิ์ ทองหุล ท่านหัวหน้าประมงหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดเขื่อนอุบลรัตน์ขอนแก่น   ท่านกฤษฎา  คำประชม ท่านนายกเทศมนตรีตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ ท่านเจษฏา  ตันติบัญชาชัย ท่านนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ ท่านทองใบ  แก้วประดิษฐ์ ท่านผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าพลังน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (เขื่อนอุบลรัตน์) ท่านพิพัทต์  คงสินทวีสุข ผู้นำชุมชน ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาขอนแก่น นายอภิเดช  หาญธรรมและเจ้าหน้าที่ พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติและประชาชนทุกท่านที่มาร่วมงานในวันนี้ 
                 

ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “เจ้าท่าขอนแก่นรักษ์น้ำ ปล่อยปลา รักษาสิ่งแวดล้อม” ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖5  ณ สะพานปลาบ้านท่าเรือ (บริเวณศาลาอเนกประสงค์ หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดเขื่อนอุบลรัตน์) จำนวน 190,000 ตัว ในวันนี้
                  จากการกล่าวรายงาน จะเห็นได้ว่า วัตถุประสงค์ของโครงการในวันนี้  มีดังนี้                                1. เพื่อฟื้นฟูและเพิ่มผลผลิตทรัพยากรสัตว์น้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ ตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น
2. เพื่อสร้างจิตสำนึกให้เกิดความผูกพันหวงแหนทรัพยากรสัตว์น้ำและสิ่งแวดล้อม
3. เพื่อประชาชนได้ประโยชน์จากทรัพยากรสัตว์น้ำ เพื่อการยังชีพหรือจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัว
4. เพื่อเสริมสร้างให้ทุกภาคส่วนเกิดความรักสามัคคี มีส่วนร่วมและเกิดความตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลรักษาและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
การจัดงานโครงการในวันนี้ นับว่าเป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์ต่อ ทรัพยากรสัตว์น้ำ ทำให้ทรัพยากรสัตว์น้ำเพิ่มปริมาณมากขึ้น มีความอุดมสมบูรณ์  ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนในเขตอำเภออุบลรัตน์ มีแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ มีอาชีพและรายได้ที่มั่นคง เป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอำเภออุบลรัตน์ให้ดีขึ้น รวมถึงก่อให้เกิดความสมัครสมานสามัคคีในทุกภาคส่วนที่เข้าร่วมในโครงการฯ นี้ อันจะนำมาซึ่งการสร้างจิตสำนึกและความเข้าใจถึงความสำคัญของการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับชุมชน 
                  

สุดท้ายนี้  กระผมขออวยพรให้การจัดงานโครงการในครั้งนี้ บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย ตรงตามวัตถุประสงค์ของการจัดงานทุกประการ และขอให้ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ทุกท่านได้ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้สามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างยั่งยืนต่อไป
                  บัดนี้ ได้เวลาอันสมควรแล้ว  ผมขอเปิดโครงการ “เจ้าท่าขอนแก่นรักษ์น้ำ ปล่อยปลา รักษาสิ่งแวดล้อม”ณ บัดนี้


ด้วย สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 7 กรมเจ้าท่า ได้มีนโยบายจัดทำโครงการ “จภ.7 พัฒนา 7 แหล่งน้ำ นำอีสานเขียว ส่งเสริมท่องเที่ยวชุมชนวิถีใหม่ ใสใจสิ่งแวดล้อม”โดยให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาในสังกัด  จัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะชน เช่น การขุดลอกฟื้นฟูแหล่งน้ำ การปล่อยปลา และการปลูกต้นไม้ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาขอนแก่น มีหน้าที่ดูแลรักษาแม่น้ำ ลำคลอง บึง อ่างเก็บน้ำ อันเป็นทางสัญจรของประชาชนหรือที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน ตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พระพุทธศักราช 2456 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 14 ) พ.ศ. 2535 

ได้เล็งเห็นว่า เขื่อนอุบลรัตน์เป็นอ่างเก็บน้ำ ตั้งอยู่ที่ตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ครอบคลุมพื้นที่รวม 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดขอนแก่นและจังหวัดหนองบัวลำภู มีความจุน้ำ 2,263 ล้านลูกบาศก์เมตร นอกจากผลิตไฟฟ้าแล้วยังเป็นแหล่งน้ำสำคัญสำหรับการอุปโภค-บริโภค และการเกษตรกรรมในจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดหนองบัวลำภู ช่วยให้มีน้ำในการเพาะปลูกได้ตลอดทั้งปี และเป็นแหล่งประมงน้ำจืดขนาดใหญ่ เมื่อประชาชนเสร็จจาการทำไร่-ทำนาจะมาทำการประมงหาปลาเลี้ยงชีพ เพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัวกว่า 4,800 ครอบครัว แต่เนื่องจากปัจจุบันความเจริญ คืบเข้ามาประกอบกับการเพิ่มขึ้นของประชากรในบริเวณรอบๆเขื่อนอุบลรัตน์ ทำให้การจับสัตว์น้ำมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น สัตว์น้ำถูกใช้ประโยชน์และไม่ได้รับการบำรุงรักษาอย่างเพียงพอ ส่งผลให้ทรัพยากรสัตว์น้ำ ลดจำนวนลงอย่างมาก  ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพของครอบครัวทำให้ต้องออกไปทำงานรับจ้างนอกพื้นที่ เกิดความห่างเหินกับครอบครัว การขยายตัวของแหล่งชุมชน การขยายพื้นที่เกษตรกรรมที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยังส่งผลให้เกิดการบุกรุกแหล่งน้ำต่างๆ เพื่ออาศัยเป็นที่ทำกิน ทำให้ระบบนิเวศเปลี่ยนไป และยังเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้แหล่งน้ำต่างๆ ตื้นเขินและเสื่อมสภาพลงอย่างรวดเร็ว


สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาขอนแก่น ได้เห็นถึงความสำคัญในการสร้างจิตสำนึกการอนุรักษ์และพัฒนาแหล่งน้ำ รวมถึงการเพิ่มทรัพยากรสัตว์น้ำ จึงได้จัดกิจกรรม “เจ้าท่าขอนแก่นรักษ์น้ำ ปล่อยปลา รักษาสิ่งแวดล้อม” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “จภ.7 พัฒนา 7 แหล่งน้ำ นำอีสานเขียว ส่งเสริมท่องเที่ยวชุมชนวิถีใหม่ ใสใจสิ่งแวดล้อม”เพื่อเป็นการเพิ่มระบบนิเวศประชากรสัตว์น้ำ โดยร่วมบูรณการกับศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดขอนแก่น นายอำเภออุบลรัตน์ หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงน้ำจืดเขื่อนอุบลรัตน์ หน่วยวิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดเขื่อนอุบลรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ การไฟฟ้าเขื่อนอุบลรัตน์ ชมรมผู้ประกอบการเรือ/แพเขื่อนอุบลรัตน์ เพื่อเพิ่มพูนความสมบูรณ์ของทรัพยากรสัตว์น้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ให้กลับมาอุดมสมบูรณ์เสริมสร้างรายได้ พร้อมพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนที่อยู่บริเวณเขื่อนอุบลรัตน์ให้มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนสืบไป


วัตถุประสงค์ 
1.เพื่อฟื้นฟูและเพิ่มผลผลิตทรัพยากรสัตว์น้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ ตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น
2.เพื่อสร้างจิตสำนึกให้เกิดความผูกพันหวงแหนทรัพยากรสัตว์น้ำและสิ่งแวดล้อม
3.เพื่อประชาชนได้ประโยชน์จากทรัพยากรสัตว์น้ำ เพื่อการยังชีพหรือจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้ให้กับ
ครอบครัว
4.เพื่อเสริมสร้างให้ทุกภาคส่วนเกิดความรักสามัคคี มีส่วนร่วมและเกิดความตระหนักถึงความสำคัญในการดูแล รักษา และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
กลุ่มเป้าหมาย
1.ปล่อยพันธ์ปลา จำนวน 190,000 ตัว
2.ผู้เข้าร่วมโครงการ จำนวน 100 คน ประกอบด้วย ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 7 พร้อมเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า ประมงจังหวัดขอนแก่น นายอำเภออุบลรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ 
























ข่าวโดย : เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.ข่าวสยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)


-------------------------------------
เว็ปไซต์นี้จดทะเบียนอิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทะเบียนพาณิชย์


-----------------------------------------------------