ขอนแก่น!!สร้างธนาคารอาหาร (Food Bank) เพื่อเป็นแหล่งอาหารเบื้องต้น บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากสถานการณ์โควิด-19

สยามไทยแลนด์ นิวส์ (ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)

ขอนแก่น!!สร้างธนาคารอาหาร (Food Bank) เพื่อเป็นแหล่งอาหารเบื้องต้น บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากสถานการณ์โควิด-19


          วันนี้ (19 พ.ค. 63) ที่ศูนย์เรียนรู้ ๑๙ พอเพียง บ้านโนนสว่างหมู่ที่ 16 ตำบลพระลับ อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดโครงการธนาคารอาหาร โดยมีกิจกรรมการปลูกผัก เลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ ซึ่งธนาคารอาหาร Food Bank เริ่มจาก “ผู้นำ ต้องทำเป็นต้นแบบก่อน”


ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การดำเนินกิจกรรมโครงการธนาคารอาหาร (Food Bank) จังหวัดขอนแก่น กำหนดพื้นที่นำร่องดำเนินโครงการในอำเภอเมืองขอนแก่น จำนวน 2 แห่ง คือ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง บ้านโนนสวรรค์ หมู่ที่ 6 ตำบลพระลับ และ ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพดอนดู่ โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ โดยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชน โดยใช้พื้นที่ดำเนินโครงการ จำนวน 7 ไร่ มีประชาชนเข้าร่วมโครงการ จำนวน 52 ครัวเรือน โดยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำบลพระลับ เป็นผู้คัดเลือกจากประชาชนบ้านโนนสวรรค์ หมู่ที่ 6 ตำบลพระลับ ที่ลงทะเบียนผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด- 19 ในระบบ Thai QM แล้ว โดยแบ่งเป็น กิจกรรมปลูกผักสวนครัว จำนวน 52 แปลง กิจกรรมเลี้ยงปลาในกระชังบก จำนวน 4 บ่อ กิจกรรมเลี้ยงปลาในบ่อดิน จำนวน 2 บ่อ กิจกรรมเลี้ยงไก่พันธุ์ไข่ จำนวน 100 ตัว และกิจกรรมทำปุ๋ยหมักจากผักตบชวา โดยใช้เทคโนโลยีสรรพสิ่งอะตอมมิคนาโน เพื่อลดรายจ่ายของเกษตรกร และสร้างความปลอดภัยแก่เกษตรกรและผู้บริโภค โดยมีประชาชนในชุมชนบ้านโนนสวรรค์และชุมชนใกล้เคียง จำนวน 2,191 คน 44190 ครัวเรือน จะได้มีแหล่งอาหารบริโภคในครัวเรือน ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนแก่ประชาชน












Cr. ปชส.ขอนแก่น
เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.สยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)

 
-------------------------------------
เว็ปไซต์นี้จดทะเบียนอิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทะเบียนพาณิชย์

-----------------------------------------------------

ผู้ว่าฯขอนแก่นลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการที่กำหนด

สยามไทยแลนด์ นิวส์ (ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)

ผู้ว่าฯขอนแก่นลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า  ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการที่กำหนด


         เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 19  พ.ค. นายสมศักดิ์  จังตระกุล  ผวจ.ขอนแก่น  นายพันธ์เทพ  เสาโกศล ปลัดจังหวัดขอนแก่น  นายศิริวัฒน์  พินิจพาณิชย์ นายอำเภอเมืองขอนแก่น พร้อมด้วยคณะกรรมการควบคุมโรค จ.ขอนแก่น ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อย ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า สาขา ขอนแก่น ตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งมี น.ส.นิสา ชาภู่พวง  ผู้จัดการทั่วไป ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า สาขา ขอนแก่น  ให้การต้อนรับ พร้อมกับนำคณะ ผวจ.ขอนแก่น เดินตรวจเยี่ยม ภายในศูนย์ ฯ และพบกับผู้ประกอบการภายในศูนย์ ฯ
 วันนี้เป็นวันที่สาม ที่ ศบค.ได้ประกาศผ่อนปรนให้เปิดสถานที่และดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพิ่มเติม จำนวน 10 ประเภท ภายหลังจากที่ต้องปิดให้บริการ เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยความห่วงใยในสุขภาพของประชาชนและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  วันนี้คณะของจังหวัดได้มาที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า สาขา ขอนแก่น เพื่อดูความพร้อม  รวมทั้งสถานที่อื่นๆ ที่อนุญาตเปิดให้บริการในศูนย์ ฯ ซึ่งมีจุดคัดกรอง เว้นระยะห่างทางสังคม สวมหน้ากากอนามัย มีบริการแอลกอฮอล์ล้างมือ ส่วนร้านอาหารที่เปิดให้บริการ ภายในร้านเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1.5 เมตร หรือมีฉากกั้น
 นายสมศักดิ์  จังตระกุล  ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า  ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า สาขา ขอนแก่น  มีการกำหนดจุดเว้นระยะห่างก่อนเข้าห้าง สวมหน้ากากอนามัยทุกคน ตั้งจุดคัดกรองตรวจวัดไข้ วัดอุณหภูมิ สแกนคิวอาร์โค้ดทางเข้า-ออก มีจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ และประชาสัมพันธ์เสียงตามสายให้ผู้ใช้บริการเว้นระยะห่างทางสังคมภายในศูนย์ ฯ และให้ปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง มีตู้อบ UV-C ฆ่าเชื้อสำหรับถุงสินค้า ร้านอาหาร ศูนย์อาหาร ร้านตัดผม คลินิกเวชกรรมที่เปิดให้บริการได้ดำเนินการตามมาตรการความปลอดภัยอย่างเข้มงวด


ในการเปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า สาขา ขอนแก่น วันนี้เป็นวันที่สาม ประชาชนชาว จ.ขอนแก่น ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ผู้ประกอบการทุกภาคส่วนที่ตั้งอยู่ในศูนย์ ฯ ได้มีความพร้อมอย่างครบถ้วนในการทำตามกฎเกณฑ์ของสาธารณสุขเพื่อป้องกันภัยโควิด- 19 ซึ่งประชาชนอย่าได้ชะล่าใจหรือตั้งอยู่ในความประมาท เพื่อป้องกันโควิด- 19 แพร่ระบาดรอบสอง และประชาชนได้เรียนรู้คิวอาร์โค๊ต “ไทยชนะ” เพราะส่วนมากได้ใช้งานในการเข้ามาที่ศูนย์ฯ ทำให้พื้นที่ในศูนย์ฯเป็นไปตามมาตรฐานด้านสาธารณสุข  และส่วนใหญ่ผู้ที่มาช๊อปปิ้งที่ศูนย์ฯจะตั้งวัตถุประสงค์มาเลยว่า เข้ามาซื้อของ ได้ของแล้วก็รีบกลับบ้านทันที เพื่อป้องกันโควิด- 19”  นายสมศักดิ์  จังตระกุล  ผวจ.ขอนแก่น  กล่าว.






Cr. สทท.ขอนแก่น
เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.สยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)

 
-------------------------------------
เว็ปไซต์นี้จดทะเบียนอิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทะเบียนพาณิชย์

-----------------------------------------------------

ขอนแก่น-รวบแก็งปลอมเฟซบุ๊คหลอกเอาเงินเหยื่อเสียหาย 14 ล้านบาท

สยามไทยแลนด์ นิวส์ (ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)

ขอนแก่น-รวบแก็งปลอมเฟซบุ๊คหลอกเอาเงินเหยื่อเสียหาย 14 ล้านบาท


          วันที่ 19 พฤษภาคม 2563  ที่กองบังชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4  แถลงผลการจับกุมแก๊งค์ Hack Facebook หลอกโอนเงิน ได้ผู้ต้องหาจำนวน 3 ราย ประกอบ ด้วย นาย กนกพล  ชนะสัตย์ อายุ 25 ปี ชาวตำบลอ่าวลึกใต้ อำเภออาวลึก จังหวัดกระบี่, นาย เอกลักษณ์  ชนะสัตย์ อายุ 22 ปี ชาวตำบลอ่าวลึกเหนือ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ และนาย พีรพรรษ  รักศักดิ์เสถียร อายุ 21 ปี ชาวตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครศรีรรมราช จังหวัดนครศรีธรมราช หลังจากเมื่อวันที่ 1พฤษภาคม ที่ผ่านมา ได้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองมุกดาหาร ว่ามีผู้ใช้เฟชบุ๊ค ชื่อ Klinjun Ramangkool ซึ่งเป็นเพื่อนกับผู้เสียหาย ได้แชทมาขอยืมเงิน ชื่อบัญชีนางแสงไว  พรหมรักษ์ ผู้เสียหายจึงได้โอนเงินไปให้ยังบัญชีดังกล่าว เมื่อโอนเงินแล้วจึงโทรศัพท์สอบถามเจ้าของเฟซบุ๊คคังกล่าว ปรากฎว่าไม่ได้เป็นคนโพสต์ขอยืมเงินแต่อย่างใด จึงเชื่อว่าน่าจะถูกแฮกเฟสบุ๊คคังกล่าวเพื่อหลอกยืมเงิน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาที่ปลอมเฟสบุ๊คหลอกโอนเงิน คือ นายเอกลักษณ์ โดยจะคันหาเบอร์โทรศัพท์จากgoogle แล้วนำเบอร์โทรศัพท์ไปล็อคอินท์เข้าเฟชบุ๊ค ส่วนรหัสผ่านก็จะสุ่มเอาจากหมายเลขโทรศัพท์ เมื่อเข้าบัญชีเฟซบุ๊คของผู้เสียหายได้แล้ว ก็จะแชทไปขอยืมเงินจากเพื่อนสนิทในเฟสบุ๊ค และให้โอนเข้าบัญชีธนาคารที่จัดเตรียมไว้ จากนั้นก็จะถอนเงินสดออกจากบัญชีแล้วนำมาแบ่งกัน ซึ่งที่ผ่านมามีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก จากการตรวจสอบเงินหมุนเวียนในบัญชีผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย มีมูลค่ารวมกันสูงถึง 14.7 ล้านบาท ประมาณ และจากการตรวจสอบประวัติพบว่ามีการเข้าแฮกเฟชบุ๊คของผู้อื่นจำนวน 289 ครั้ง โดยก่อนหน้านี้นายเอกลักษณ์ ถูกจับกุมในความผิดเกี่ยวกับ พรบ.คอมพิวเตอร์ และอยู่ระหว่างประกันตัว ทั้งนี้หากพี่น้องประชาชนท่านใดถูกคนร้าย Hack Facebook หรือ สงสัยว่าคนร้ายกลุ่มนี้จะเป็นผู้ก่อเหตุ สามารถแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติมได้ที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน


เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา “เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต และ ฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ หรือนำข้อมูลเท็จระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไป ไม่สามารถเข้าถึงได้” ก่อนให้หนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.


Cr. กัมพล ดวงชิน
เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.สยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)

 
-------------------------------------
เว็ปไซต์นี้จดทะเบียนอิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทะเบียนพาณิชย์

-----------------------------------------------------