ผอ.ศปป.๒ กอ.รมน. ลงพื้นที่ร่วมตรวจสอบแรงงานต่างด้าว จ.สุรินทร์

สยามไทยแลนด์ นิวส์ (ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)

ผอ.ศปป.๒ กอ.รมน. ลงพื้นที่ร่วมตรวจสอบแรงงานต่างด้าว จ.สุรินทร์


            ตามนโยบายของรัฐบาลในการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว ให้อยู่ในขอบเขตที่สามารถควบคุมได้และไม่ก่อให้เกิดผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและสังคม เพื่อปฏิบัติตามนโยบายดังกล่าว พล.ท.กิตติธัช  บุพศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ ๒ กอ.รมน. และคณะ ฯ จึงได้ลงพื้นที่ กอ.รมน.จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ๖๒ เวลา ๑๓๓๐ เพื่อขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ ของ กอ.รมน. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อมาเยี่ยมเยือนให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนรับทราบผลการดำเนินงาน และปัญหาข้อขัดข้องในการปฏิบัติงานของหน่วยงานต่างๆ นอกจากนี้ยังเป็นการดำเนินการตามขอบเขตอำนาจหน้าที่ของ กอ.รมน. ซึ่งมีงานที่จะต้องขับเคลื่อนเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในมิติด้านความมั่นคงทางสังคม ซึ่งประกอบด้วยงานหลัก ๓ งาน ได้แก่ การป้องกันและแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว และผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย การจัดระเบียบสังคม และการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมีนายพรพจน์  บัณฑิตยานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปสถานการณ์ด้านแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ปัญหายาเสพติด การค้ามนุษย์ และการจัดระเบียบสังคม ภายหลังเสร็จสิ้นการบรรยายสรุปผลการปฏิบัติงานของส่วนราชการต่าง ๆ ในพื้นที่ รวมทั้งรับทราบปัญหาข้อขัดข้องและข้อเสนอแนะในการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว พล.ท.กิตติธัช  บุพศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ ๒ กอ.รมน. และเจ้าหน้าที่ทีมสหวิชาชีพของจังหวัดสุรินทร์ได้เดินทางไปตรวจสอบการจ้างแรงงานต่างด้าวในสถานประกอบการแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ รวมทั้งมีการสุ่มตรวจปัสสาวะแรงงานต่างด้าวเพื่อหาสารเสพติด
ผลการตรวจสอบไม่พบแรงงานต่างด้าวทำงานผิดกฎหมาย รวมทั้งไม่พบสารเสพติดใน ปัสสาวะ ของกลุ่มตัวอย่างแรงงานต่างด้าวที่สุ่มตรวจ ซึ่ง ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ ๒ กอ.รมน. ได้แนะนำและขอความร่วมมือให้เจ้าของสถานประกอบการใช้แรงงานต่างด้าวถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น และให้หลีกเลี่ยงการให้ที่พักพิงแก่คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองและลักลอบทำงานโดยผิดกฎหมายทุกกรณี ทั้งนี้เพื่อเป็นการยกระดับสถานการณ์ด้านแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ของประเทศไทยให้ดียิ่งขึ้น










เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.สยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)






-------------------------------------
เว็ปไซต์นี้จดทะเบียนอิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทะเบียนพาณิชย์

-----------------------------------------------------

"บช.ปส." พร้อมด้วย "กอ.รมน." โชว์ผลงาน "จับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ภาคเหนือ" ได้ของกลาง "ยาบ้า กว่า 4,460,000 เม็ด"

สยามไทยแลนด์ นิวส์ (ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)

"บช.ปส." พร้อมด้วย "กอ.รมน." โชว์ผลงาน "จับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ภาคเหนือ" ได้ของกลาง "ยาบ้า กว่า 4,460,000 เม็ด" 


      วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม 2562  พล.ท.กิตติธัช บุพศิริ ผอ.ศปป.2.กอ.รมน. พร้อมด้วย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง.ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. , พล.ต.ท.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบช.ภ.6 ร่วมกันแถลงข่าว จับกุมผู้ต้องหายาเสพติดรายใหญ่พร้อมด้วยของกลางยาเสพติด "ยาบ้า จำนวน 4,460,000 เม็ด" ณ.กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ถนนวิภาวดี ดินเเดง กทม.


ทางด้าน พล.ต.ท.ชินภัทรฯ กล่าวว่า ในการจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ บช.ปส. ลงพื้นที่ทำการสืบสวน เครือข่ายยาเสพติดรายดังกล่าว จนล่าสุดได้รับแจ้งข้อมูลจาก สายลับ ว่ากลุ่มนี้จะมีการลักลอบแอบขนยาเสพติด ยาบ้า ลงมาจากพื้นที่ในจังหวัดภาคเหนือตอนบนเพื่อมาส่งต่อให้กับลูกค้าในพื้นที่ กรุงเทพฯ และ ปริมณฑล โดยจะใช้พาหนะ "รถยนต์ทะเบียน ญฌ 2158 กทม." และ "รถยนต์ทะเบียน กบ 7714 กาญจนบุรี" เป็นพาหนะในการลำเลียงขนยาเสพติดในครั้งนี้ โดยเส้นทางจะขับหลบเลี่ยงด่านตรวจตามเส้นทางหลักผ่านเส้นทาง จังหวัดเชียงราย  ลำปาง  จนมาถึง จ.สิงห์บุรี จากนั้นเจ้าหน้าที่ บช.ปส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้จัดชุดกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามรถยนต์คันดังกล่าว เเละ ในวันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา ทาง เจ้าหน้าที่ บช.ปส. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบสวนภูธร สภ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ จนสามารถติดตามรถยนต์คันดังกล่าวได้และได้ติดตามไล่ล่า ก่อนที่ ผู้ต้องหา จะรู้ตัวโดยผู้ต้องหาได้ทำการขับรถยนต์หนี จนนำรถยนต์มาจอดทิ้งของกลางยาเสพติดไว้ บริเวณร่องน้ำ ข้างสระสาธารณะ ในพื้นที่ ม.1 ต.เนินศาลา อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์  จากการตรวจค้นรถยนต์พบ ยาบ้า ของกลางยาเสพติด ยาบ้า สัญลักษณ์ 999 สีแดงและสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นของกลุ่มว้าใต้ สัญลักษณ์ Y1 สีแดง และรูปผลองุ่นสีแดงของกลุ่มว้าเหนือ โดยประมาณ จำนวน 4,460,000 เม็ด มูลค่ากว่า 800 ล้านบาท


โดยหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนติดตามจนสามารถตามไปจับกุมผู้ต้องหา นายวีรชน อิ่มเปี่ยม อายุ 32 ปี และ นายธนพล ใจห่อ อายุ 23 ปี ชาวจังหวัดกาญจนบุรี ทั้ง 2 คน ได้ ที่บ้านพัก เลขที่ 193/9 ม.2 ต.วังเย็น อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ในช่วงเย็นของวันเดียวกัน โดยของกลางทั้งหมดที่ตรวจยึดได้ในคดีนี้มีดังนี้


1.ยาบ้า จำนวน 4,459,200 เม็ด
2.รถยนต์นิสสันมาร์ช 1 คัน
3.รถยนต์มิตซูบิชิปาเจโร่ สีดำ 1 คัน
4.โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง
5.เงินสด และ ทองรูปพรรณ
6.และ ทรัพย์สิน อื่น กว่า 1 ล้านบาท  ( รวมทั้งหมด 9 รายการ )


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาผู้ต้องหา ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ก่อนที่จะนำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.2 ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

----------------------------
เนื้อข่าว
ธีรพล ปลื้มถนอม รายงาน
เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.สยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)






-------------------------------------
เว็ปไซต์นี้จดทะเบียนอิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทะเบียนพาณิชย์

-----------------------------------------------------

ผอ.ศปป.2 กอ.รมน.ลุยแก้ปัญหายาเสพติด จังหวัดศรีสะเกษ

สยามไทยแลนด์ นิวส์ (ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน) 

ผอ.ศปป.2 กอ.รมน.ลุยแก้ปัญหายาเสพติด จังหวัดศรีสะเกษ          

                           

            ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 กอ.รมน. นำโดย พลโทกิตติธัช บุพศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 กอ.รมน.และคณะร่วมเป็นประธานพิธีมอบธงสัญลักษณ์รับรองครัวเรือนปลอดภัยจากยาเสพติด กองทุนแม่ของแผ่นดิน จำนวน 160 ครัวเรือน ที่หมู่ 1 ต.ละลาย อ.กันทรลักษ์ จว.ศรีษะเกษ และตรวจเยี่ยมกิจกรรมตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หมู่ 12 ต.ละลาย อ.กันทรลักษ์ จว.ศรีษะเกษ เพื่อให้เป็นหมู่บ้านชุมชนเข้มแข็งพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ปลอดภัยจากยาเสพติด สืบเนื่องจากสถานการณ์ยาเสพติดที่ผ่านมาของหมู่บ้าน มีการใช้สารเสพติดอย่างแพร่ระบาด จึงได้ร่วมกันขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน โดยใช้หลักชุมชนดูแลชุมชน ใช้มาตรการตามกฎชุมชนเข้มแข็ง เกิดมาตรการทางสังคม เกิดการยอมรับด้วยการให้อภัยซึ่งกันและกัน นอกจากนั้นยังดำเนินการกิจกรรมด้านเศรษฐกิจพอเพียงควบคู่กันไป โดยได้รับความรู้ ความเข้าใจในการขับเคลื่อนกองทุนแม่ของแผ่นดินจากส่วนราชการในพื้นที่ จึงทำให้เป็นหมู่บ้าน/ชุมชนเข้มแข็ง มีระบบเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดของหมู่บ้าน/ชุมชนอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยมุ่งเน้นลดจำนวนทั้งผู้ค้าและผู้เสพในทุกชุมชนอย่างยั่งยืน










เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.สยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)





-------------------------------------
เว็ปไซต์นี้จดทะเบียนอิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทะเบียนพาณิชย์

-----------------------------------------------------