สยามไทยแลนด์ นิวส์ (ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)
บุรีรัมย์ ชาวบ้านแจ้งจับผู้ใหญ่บ้านปลอมลายเซ็นคนตาย - คนป่วยฯ หวังเบิกเงิน ค่าอาหารกลางวัน หัวละ 40 บาท
ชาวบ้านแจ้งจับผู้ใหญ่บ้านตัวเอง ระบุปลอมลายเซ็นคนตาย คนป่วยติดเตียง และคนไม่อยู่บ้าน เพื่อหวังแค่เบิกค่าอาหารกลางวันหัวละ 40 บาท ติดตามคดีไม่คืบ ตำรวจนิ่ง มีคนมาเจรจาขอให้ถอนแจ้งความ แต่ชาวบ้านกลุ่มนี้ระบุหลายครั้งแล้ว ขณะผู้ใหญ่บ้านชี้ ไม่ร้ายแรงขนาดนั้นคาด แพ้เลือกตั้งสองครั้งเลยจองเวร
วันที่ 24 ก.ย.61 ชาวบ้านปราสาทเทพสถิตย์ หมู่ 13 ต.ช่อผกา อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ร้องเรียนสื่อ หลังจากเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ชำนิ ให้ดำเนินคดีกับผู้ใหญ่บ้านฐานปลอมแปลงเอกสาร แต่ไม่คืบหน้า คาดมีการวิ่งเต้น
โดยกลุ่มชาวบ้านได้นำหลักฐานเป็นกระดาษลายเซ็นของชาวบ้านจำนวน 99 คน ที่ผู้ใหญ่บ้านเอาเป็นหลักฐานไปเบิกค่าอาหารในการประชุมโครงการไทยนิยมยั่งยืน หัวละ 40 บาท เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา
ชาวบ้านกลุ่มนี้ระบุว่า ลายเซ็นที่ปรากฏ มีความผิดปกติเพราะ มีลายมือคนที่เสียชีวิตไปแล้ว บางรายเป็นผู้ป่วยติดเตียง แต่ก็มีรายชื่อเข้าประชุม นอกจากนี้ยังพบความผิดปกติที่เห็นได้ชัดว่า แต่ละหลังคาเรือนมีรายชื่อและเซ็นไว้บ้านเลขที่ละ 4-5 คน ชาวบ้านจึงเชื่อว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น
นายสัญญา แก่นแก้ว อายุ 40 ปี เล่าว่า ตนเองพบหลักฐานนี้โดยบังเอิญ เพราะถูกให้เอาเอกสารไปถ่ายเอกสาร ตรวจสอบพบว่ามีรายชื่อถึง 99 คนในการประชุม แต่ความเป็นจริงวันนั้นมีคนเข้าประชุมประมาณ 20-30 คนเท่านั้น เมื่อตรวจสอบละเอียด จึงพบความผิดปกติ
ชาวบ้านที่ไม่ได้เข้าประชุมแล้วมีลายเซ็น จึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ชำนิ เพื่อให้เอาผิดผู้เกี่ยวข้อง ฐานปลอมแปลงเอกสาร แต่จนถึงขณะนี้ ตำรวจยังไม่ดำเนินการใดๆ แถมยังมีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมาเจรจาให้ถอนแจ้งความ
แต่พวกตนไม่ยอม เพราะผู้ใหญ่บ้านมีพฤติกรรมแบบนี้หลายครั้งมาแล้ว ก่อนหน้านี้เคยมีพฤติกรรมทุจริต เงินโครงการ 9101 ด้วยการเรียกเงินทอนค่าแรงจากชาวบ้านมาแล้ว อำเภอมีการสอบแต่ลักษณะเข้าข้างกันทั้งที่หลักฐานชัดเจน ซึ่งคาดว่าน่าจะแอบพูดคุยกันให้ผลการสอบพ้นผิด เพราะเรื่องเงียบไป
ครั้งนี้จะไม่ยอมถอนแจ้งความเด็ดขาด และอยากจะวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานให้เต็มที่ หากไม่คืบหน้าก็จะไปร้องต่อตำรวจภาค 3 ให้เอาผิดตำรวจฐานละเว้น
ด้านนายนายเย้ย อุดมพล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 ระบุว่าการร้องเรียนดังกล่าวของกงชาวบ้านกลุ่มนี้ ตนไม่เข้าใจว่าต้องการอะไร ที่ผ่านมาเคยพยายามร้องเรียนหลายครั้ง แต่ไม่เป็นผลเพราะการทำงานของผู้ใหญ่บ้านก็อยู่ในกรอบที่ทำได้ บางอย่างอาจจะไม่สามารถทำตามระเบียบได้ทุกขั้นตอน เพราะต้องการให้งานเดินต่อไปได้
ความรู้สึกส่วนตัวตนคิดว่าอาจจะเป็นเพราะชาวบ้านกลุ่มนี้เคยส่งคนของตัวเองมาแข่งขันการแต่งตั้งประธานกองทุนเงินบ้าน แต่แพ้น้องเมียตนเอง และส่งพวกเขามาแข่งขันการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านก็แพ้อีกซึ่งอาจจะเป็นมูลเหตุสำคัญที่พยายามร้องเรียนทุกเรื่อง
ภาพ /ข่าว ธีรยุทธ์ ชำนาญกอง / วันชัย ผิวอร่าม จังหวัดบุรีรัมย์
เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.สยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)
-------------------------------------
เว็ปไซต์นี้จดทะเบียนอิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทะเบียนพาณิชย์
-----------------------------------------------------
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น