สยามไทยแลนด์ นิวส์ (ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)
บุรีรัมย์-ลอตเตอรี่ป่วนอีกหนุ่มสาววัย15 อ้างถูกรางวัล 12 ล้าน ก่อนให้แม่ฝ่ายหญิงไปขึ้นเงินแต่เงียบหาย (มีคลิป)
วันนี้ 14 ก.ค.61 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนางมานิตย์ เต็มปักษี อายุ 44 ปี บ้านเลขที่ 46 ม.13 ต.เสาเดียว อ.หนองหงส์ บุรีรัมย์ ว่าตนเองพร้อมนางสาวสมศรี สายสมคุณ อายุ 21 ปี ลูกสาว และนางฉวีวรรณ ลูกจันทร์ อายุ 30 ปี หลานสาว
ถูกนางบัวตัน เลาะกลาง อายุ 37 ปี ชาวอำเภอห้วยแถลง นครราชสีมา แจ้งความจับในข้อหายักยอกทรัพย์ (สลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่1 หมายเลข 412073 จำนวน 2 ใบ เป็นเงินรางวัล จำนวน 12 ล้านบาท)พร้อมกับได้รับหมายเรียกจากศาลฐานยักยอกทรัพย์
เบื้องต้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของนางบัวตัน เลาะกลาง ม.9 ต.เมืองพลับพลา อ.ห้วยแถลง นครราชสีมา คนแจ้งความและฟ้องศาล ปรากฏว่าไม่มีใครอยู่บ้าน จากการสอบถามนางคราม หามไธสง อายุ 84 ปี ซึ่งเป็นแม่ของนางบัวตัน ผู้ฟ้องร้อง
เล่าว่าลูกสาวกับ
หลานชายและหลานสะใภ้ได้ไปทำงานที่จังหวัดจันทบุรี มาหลายวันแล้ว ส่วนเรื่องสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 ตนเองพอจะทราบบ้างแต่ไม่ละเอียดนัก
เบื้องต้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของนางบัวตัน เลาะกลาง ม.9 ต.เมืองพลับพลา อ.ห้วยแถลง นครราชสีมา คนแจ้งความและฟ้องศาล ปรากฏว่าไม่มีใครอยู่บ้าน จากการสอบถามนางคราม หามไธสง อายุ 84 ปี ซึ่งเป็นแม่ของนางบัวตัน ผู้ฟ้องร้อง
เล่าว่าลูกสาวกับ
หลานชายและหลานสะใภ้ได้ไปทำงานที่จังหวัดจันทบุรี มาหลายวันแล้ว ส่วนเรื่องสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 ตนเองพอจะทราบบ้างแต่ไม่ละเอียดนัก
โดยนางคราม เล่าว่าเมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ด.ช.สุดเขต เลาะกลาง อายุ 15 ปี หลานชายและแฟนหลานชาย อ้างว่าได้ชื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดที่ 1 เมษายน 2561 มาจากตัวอำเภอห้วยแถลง จำนวน 2 ใบ แล้วถูกรางวัลที่ 1 หมายเลข 412073 เงินรางวัลจำนวน 12 ล้านบาท
โดย ด.ช. สุดเขต พร้อม น.ส.สาวิตรี สายสมคุณ อายุ 15 ปี แฟนสาวที่มาอยู่ด้วยกันที่ อ.ห้วยแถลง อ้างว่าหลังทราบว่าถูกรางวัลที่ 1 ได้นำสลากกินแบ่งรัฐบาลดังกล่าว ไปให้นางมานิตย์ มารดาแฟนสาว ซึ่งอยู่ในอำเภอหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์ ไปขึ้นเงินรางวัลให้จำนวน 12 ล้าน
และยังอ้างอีกว่าวันที่ 3 เมษายน 61 นางมานิตย์ จะนำเงินรางวัลจำนวน 12 ล้าน มาให้ แต่ก็บ่ายเบี่ยงตลอดเวลา จนนางบัวตัน ทวงถามหลายครั้งจึงได้ปรึกษาทนายความและไปแจ้งความไว้ที่ สภ.หนองหงส์ บุรีรัมย์ ซึ่งตนเองก็เคยสอบถามด.ช.สุดเขต ว่าได้ถูกรางวัลที่ 1 จริงไหมก็ได้รับความยืนยันจากหลานชายว่าถูกรางวัลจริง แต่ส่วนตัวเองก็ไม่เคยเห็นสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดดังกล่าว ซึ่งด.ช. สุดเขต อ้างว่าได้เขียนชื่อ นามสกุล สลักหลังไว้ที่หลังสลากกินแบ่งรัฐบาลชุดดังกล่าวก่อนที่จะให้นางมานิตย์ แม่ของแฟนสาวเพื่อจะนำไปขึ้นเงินรางวัลจำนวน 12 ล้านให้
นางคราม เล่าต่อไปว่าตนเองได้สอบถามนางบัวตัน ลูกสาวว่าได้เห็นสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่1 หรือไม่ ซึ่งนางบัวตัน ก็บอกว่าไม่เคยเห็นเนื่องจากลูกชายนำไปให้นางมานิตย์ นำไปขึ้นเงินรางวัลให้หลังรู้ว่าถูก
ด้านนางมานิตย์ เต็มปักษี ผู้ถูกกล่าวหา บอกว่าตนเองไม่เคยรู้เรื่องดังกล่าว และ ด.ช. สุดเขต กับด.ญ สาวิตรี ลูกสาวก็ไม่เคยเอาสลากกินแบ่งรัฐบาลที่อ้างว่าถูกรางวัลที่ 1 มาให้แต่อย่างใด และสามารถท้าพิสูจน์ได้ทั้งเส้นทางการเงิน และความเป็นอยู่ที่ยังจนเหมือนเดิม
ด้านนางฉวีวรรณ ลูกจันทร์ อายุ 30 ปี น้องสาวนางมานิตย์ และตกเป็นผู้ต้องหาเช่นเดียวกัน กล่าวว่าตนเองถูกนางบัวตัน กล่าวหาว่าเป็นคนเอาสลากกินแบ่งรัฐบาลชุดดังกล่าวไปขึ้นเงินรางวัลจำนวน 12 ล้าน เรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริงจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า
เอกสารที่ทนายความของนางบัวตัน นำมาจากกองสลาก ระบุชื่อคนขึ้นรางวัลก็ไม่ใช่ชื่อตนเอง ตอนนี้ตนเองเดือดร้อนมาก เนื่องจากหาเช้ากินค่ำ ต้องเดินทางไปศาล และสถานีตำรวจ ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง โดยอยากจะให้มีการสอบสวน ด.ช.สุดเขต ว่าได้ถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 เม.ย 61 จริงหรือไม่
โดยศาลจังหวัดนางรองได้นัดไต่สวนครั้งแรก เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.61 แต่ศาลได้เลื่อนพิจารณาคดีไต่สวนไปเป็นวันที่ 23 ก.ค.61 นี้ ซึ่งตนเองคงจะต้องเดินทางไปขึ้นศาลอีก ////////////////////
โดย ด.ช. สุดเขต พร้อม น.ส.สาวิตรี สายสมคุณ อายุ 15 ปี แฟนสาวที่มาอยู่ด้วยกันที่ อ.ห้วยแถลง อ้างว่าหลังทราบว่าถูกรางวัลที่ 1 ได้นำสลากกินแบ่งรัฐบาลดังกล่าว ไปให้นางมานิตย์ มารดาแฟนสาว ซึ่งอยู่ในอำเภอหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์ ไปขึ้นเงินรางวัลให้จำนวน 12 ล้าน
และยังอ้างอีกว่าวันที่ 3 เมษายน 61 นางมานิตย์ จะนำเงินรางวัลจำนวน 12 ล้าน มาให้ แต่ก็บ่ายเบี่ยงตลอดเวลา จนนางบัวตัน ทวงถามหลายครั้งจึงได้ปรึกษาทนายความและไปแจ้งความไว้ที่ สภ.หนองหงส์ บุรีรัมย์ ซึ่งตนเองก็เคยสอบถามด.ช.สุดเขต ว่าได้ถูกรางวัลที่ 1 จริงไหมก็ได้รับความยืนยันจากหลานชายว่าถูกรางวัลจริง แต่ส่วนตัวเองก็ไม่เคยเห็นสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดดังกล่าว ซึ่งด.ช. สุดเขต อ้างว่าได้เขียนชื่อ นามสกุล สลักหลังไว้ที่หลังสลากกินแบ่งรัฐบาลชุดดังกล่าวก่อนที่จะให้นางมานิตย์ แม่ของแฟนสาวเพื่อจะนำไปขึ้นเงินรางวัลจำนวน 12 ล้านให้
นางคราม เล่าต่อไปว่าตนเองได้สอบถามนางบัวตัน ลูกสาวว่าได้เห็นสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่1 หรือไม่ ซึ่งนางบัวตัน ก็บอกว่าไม่เคยเห็นเนื่องจากลูกชายนำไปให้นางมานิตย์ นำไปขึ้นเงินรางวัลให้หลังรู้ว่าถูก
ด้านนางมานิตย์ เต็มปักษี ผู้ถูกกล่าวหา บอกว่าตนเองไม่เคยรู้เรื่องดังกล่าว และ ด.ช. สุดเขต กับด.ญ สาวิตรี ลูกสาวก็ไม่เคยเอาสลากกินแบ่งรัฐบาลที่อ้างว่าถูกรางวัลที่ 1 มาให้แต่อย่างใด และสามารถท้าพิสูจน์ได้ทั้งเส้นทางการเงิน และความเป็นอยู่ที่ยังจนเหมือนเดิม
ด้านนางฉวีวรรณ ลูกจันทร์ อายุ 30 ปี น้องสาวนางมานิตย์ และตกเป็นผู้ต้องหาเช่นเดียวกัน กล่าวว่าตนเองถูกนางบัวตัน กล่าวหาว่าเป็นคนเอาสลากกินแบ่งรัฐบาลชุดดังกล่าวไปขึ้นเงินรางวัลจำนวน 12 ล้าน เรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริงจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า
เอกสารที่ทนายความของนางบัวตัน นำมาจากกองสลาก ระบุชื่อคนขึ้นรางวัลก็ไม่ใช่ชื่อตนเอง ตอนนี้ตนเองเดือดร้อนมาก เนื่องจากหาเช้ากินค่ำ ต้องเดินทางไปศาล และสถานีตำรวจ ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง โดยอยากจะให้มีการสอบสวน ด.ช.สุดเขต ว่าได้ถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 เม.ย 61 จริงหรือไม่
โดยศาลจังหวัดนางรองได้นัดไต่สวนครั้งแรก เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.61 แต่ศาลได้เลื่อนพิจารณาคดีไต่สวนไปเป็นวันที่ 23 ก.ค.61 นี้ ซึ่งตนเองคงจะต้องเดินทางไปขึ้นศาลอีก ////////////////////
ภาพ/ข่าว ธีรยุทธ์ ชำนาญกอง / วันชัย ผิวอร่าม จ.บุรีรัมย์
เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพรบก.สยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)
-------------------------------------
เว็ปไซต์นี้จดทะเบียนอิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทะเบียนพาณิชย์
-----------------------------------------------------
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น