สยามไทยแลนด์ นิวส์ (ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมใจประชาชน )
บุรีรัมย์-สาววัย 23 อุ้มลูกน้อยเข้าร้องสื่อ ขอความเป็นธรรม สามีถูกครูขับเก๋งชนดับ แถม ตร.บอกว่า ผู้ตายเป็นฝ่ายผิด ยังต้องชดใช้ให้คู่กรณี
สุดสลดสาววัย 23 ปีกับลูก 2 คนหมดที่พึ่ง สามีถูกรถเก๋งครู ชนเสียชีวิตคาที่ โร่แจ้งตำรวจบอกทำคดีเสร็จแล้ว ไล่ไปจัดงานศพ สุดท้ายระบุสามีเป็นฝ่ายผิดต้องตายฟรี จ่ายเงิน 7,000 เป็นค่าปรงศพ ทั้งที่ภาพที่เกิดเหตุเราถูก แถมขู่ให้ซ่อมรถเก๋งให้ แม่ผู้ตายเล่าทั้งน้ำตา สามีรถเก๋งเป็นนายตำรวจ จะเอาอะไรไปสู้เขา
วันนี้ 16 พ.ค.ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จาก 3 แม่ลูกครอบครัวยากจน ว่าขาดที่พึ่งไม่มีทางออก เพราะไม่มีความรู้กฎหมาย หลังจากสามีถูกรถเก๋งชนเสียชีวิต แล้วถูกคนขับรถเก๋งมาข่มขู่ให้ซ่อมรถให้
เมื่อไปถึงพบ น.ส.เบญญาภา สายสนธ์ อายุ 23 ปี พร้อมกับลูกชายวัย 3 ปีและ 1 ปี อาศัยอยู่บ้านหลังเล็กอยู่กับยายรวม 4 คนในครอบครัว ที่บ้านโคกตะเคียน ต.สะเดา อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ ได้นำภาพการเกิดอุบัติเหตุมาให้สื่อร่วมตรวจสอบถึงกระบวนการสอบสวนของตำรวจว่าเป็นธรรมหรือไม่
น.ส.เบญญาภา เล่าว่า สามีทำงานในโรงงานยางพาราที่ อ.ประโคนชัย ห่างจากบ้านพักประมาณ 17 กม.เมื่อวันที่ 11 พ.ค.เวลาประมาณ 21.00 น.สามีขับรถจักรยานยนต์ก่อนจะถึงบ้านประมาณ 2 กม.ได้เกิดอุบัติเหตุชนกับรถเก๋งของครูท่านหนึ่ง ทำให้สามีเสียชีวิตคาที่ ส่วนคนขับรถเก๋งปลอดภัย
ครอบครัวมัวแต่เสียใจจึงไม่ค่อยสนใจเรื่องคดี โดยระหว่างการจัดงานศพได้มีครูคนขับรถเก๋ง มาในงานศพแล้วยื่นเงินให้ 7,000 บาท แจ้งว่า”ช่วยงาน”แล้วกลับไป
หลังจากเสร็จงานศพครูคนดังกล่าวก็ไม่เคยติดต่อมา มีเพียงพนักงานสอบสวน สภ.พลับพลาชัย ให้ไปพบ แล้วแจ้งว่า สามีเป็นคนผิดจะต้องตายฟรี สร้างความมึนงงกับครอบครัวเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่มีที่พึ่ง จึงเดินทางไปดูสถานที่เกิดเหตุ
วันนี้ 16 พ.ค.ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จาก 3 แม่ลูกครอบครัวยากจน ว่าขาดที่พึ่งไม่มีทางออก เพราะไม่มีความรู้กฎหมาย หลังจากสามีถูกรถเก๋งชนเสียชีวิต แล้วถูกคนขับรถเก๋งมาข่มขู่ให้ซ่อมรถให้
เมื่อไปถึงพบ น.ส.เบญญาภา สายสนธ์ อายุ 23 ปี พร้อมกับลูกชายวัย 3 ปีและ 1 ปี อาศัยอยู่บ้านหลังเล็กอยู่กับยายรวม 4 คนในครอบครัว ที่บ้านโคกตะเคียน ต.สะเดา อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ ได้นำภาพการเกิดอุบัติเหตุมาให้สื่อร่วมตรวจสอบถึงกระบวนการสอบสวนของตำรวจว่าเป็นธรรมหรือไม่
น.ส.เบญญาภา เล่าว่า สามีทำงานในโรงงานยางพาราที่ อ.ประโคนชัย ห่างจากบ้านพักประมาณ 17 กม.เมื่อวันที่ 11 พ.ค.เวลาประมาณ 21.00 น.สามีขับรถจักรยานยนต์ก่อนจะถึงบ้านประมาณ 2 กม.ได้เกิดอุบัติเหตุชนกับรถเก๋งของครูท่านหนึ่ง ทำให้สามีเสียชีวิตคาที่ ส่วนคนขับรถเก๋งปลอดภัย
ครอบครัวมัวแต่เสียใจจึงไม่ค่อยสนใจเรื่องคดี โดยระหว่างการจัดงานศพได้มีครูคนขับรถเก๋ง มาในงานศพแล้วยื่นเงินให้ 7,000 บาท แจ้งว่า”ช่วยงาน”แล้วกลับไป
หลังจากเสร็จงานศพครูคนดังกล่าวก็ไม่เคยติดต่อมา มีเพียงพนักงานสอบสวน สภ.พลับพลาชัย ให้ไปพบ แล้วแจ้งว่า สามีเป็นคนผิดจะต้องตายฟรี สร้างความมึนงงกับครอบครัวเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่มีที่พึ่ง จึงเดินทางไปดูสถานที่เกิดเหตุ
พบว่ารถของสามีและสามีที่เสียชีวิตอยู่ฝั่งเลนของตัวเอง เพราะมีน้ำเครื่องและคราบเลือดยังเห็นชัดในที่เกิดเหตุ ผิดกับพนักงานสอบสวนที่อ้างว่าผู้ตายไปชนฝั่งรถเก๋ง จึงคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะเท่าที่รู้มาสามีครูขับรถเก๋งเป็นนายตำรวจ
ด้านนางเปียน ชูชี อายุ 48 ปี แม่ของนายอนันต์ ชูชี ผู้เสียชีวิต เล่าว่า หลังเกิดเหตุวันรุ่งขึ้นได้เข้าไปแจ้งความที่ สภ.พลับพลาชัย แต่ได้รับคำตอบจากพนักงานสอบสวนว่า สำนวนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ระบุผู้ตายเป็นฝ่ายผิด”ต้องตายฟรี”
ด้านนางเปียน ชูชี อายุ 48 ปี แม่ของนายอนันต์ ชูชี ผู้เสียชีวิต เล่าว่า หลังเกิดเหตุวันรุ่งขึ้นได้เข้าไปแจ้งความที่ สภ.พลับพลาชัย แต่ได้รับคำตอบจากพนักงานสอบสวนว่า สำนวนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ระบุผู้ตายเป็นฝ่ายผิด”ต้องตายฟรี”
ตนเองงงมาก เพราะญาติที่ไปดูที่เกิดเหตุในคืนนั้นระบุว่ารถเก๋งเป็นฝ่ายผิดข้ามมาชนฝั่งรถจักรยานยนต์ของลูกชาย ตอนไปพบพนักงานสอบสวน กะจะถ่ายภาพไว้แต่โทรศัพท์ราคาหลักร้อยถ่ายภาพไม่ได้
นางเปียน เล่าทั้งน้ำตาว่า ตั้งแต่เกิดเหตุมาจนถึงตอนนี้ ยังไม่ได้ยินคำขอโทษจากครูรถเก๋งเลย ถึงแม้ครอบครัวเราจะยากจนแต่ก็มีความรู้สึกเสียใจ แทนที่คนเป็นถึงข้าราชการจะมาให้กำลังใจคนจนบ้าง แถมยังถูกข่มขู่ว่าจะให้ซ่อมรถเก๋งให้ ตอนนี้ไม่มีที่พึ่งแล้ว หันหน้าไปทางไหนไม่ถูกเพราะเราไม่รู้จักผู้ใหญ่
ยิ่งมารู้ว่าสามีคนขับรถเก๋งเป็นนายตำรวจอยู่ สภ.พลับพลาชัย ยิ่งคิดไม่ออกว่าเราจะได้รับความเป็นธรรมแค่ไหน จึงอยากจะให้ผู้รู้มาช่วยชี้แนะและช่วยเหลือในด้านคดี ทางครอบครัวจะไม่ลืมพระคุณไปตลอดชีวิต
นางเปียน เล่าทั้งน้ำตาว่า ตั้งแต่เกิดเหตุมาจนถึงตอนนี้ ยังไม่ได้ยินคำขอโทษจากครูรถเก๋งเลย ถึงแม้ครอบครัวเราจะยากจนแต่ก็มีความรู้สึกเสียใจ แทนที่คนเป็นถึงข้าราชการจะมาให้กำลังใจคนจนบ้าง แถมยังถูกข่มขู่ว่าจะให้ซ่อมรถเก๋งให้ ตอนนี้ไม่มีที่พึ่งแล้ว หันหน้าไปทางไหนไม่ถูกเพราะเราไม่รู้จักผู้ใหญ่
ยิ่งมารู้ว่าสามีคนขับรถเก๋งเป็นนายตำรวจอยู่ สภ.พลับพลาชัย ยิ่งคิดไม่ออกว่าเราจะได้รับความเป็นธรรมแค่ไหน จึงอยากจะให้ผู้รู้มาช่วยชี้แนะและช่วยเหลือในด้านคดี ทางครอบครัวจะไม่ลืมพระคุณไปตลอดชีวิต
ภาพ / ข่าว ธีรยุทธ์ ชำนาญกอง / วันชัย ผิวอร่าม จ.บุรีรัมย์
เกรียงไกร อนุรักษฺเจริญพร
บก สยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)
เกรียงไกร อนุรักษฺเจริญพร
บก สยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)
เว็ปไซต์นี้จดทะเบียนอิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทะเบียนพาณิชย์
-----------------------------------------------------
i
ตอบลบ