แถลงข่าวกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 การปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติด

สยามไทยแลนด์ นิวส์ (ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)

แถลงข่าวกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 การปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติด


วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม 2568 เวลา 15.00 น.
เปิดแถลงข่าวกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 การปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติด
"นครพนมจับยาเสพติดเต็มคันรถ 3 ล้านก็ว่าเม็ด"  
" ยาบ้า Y1" ชุดปฏิบ้ติการข่าว ตชด.กองร้อยตระเวนชายแดน 237  ปฏิบัติการ Seal Stop Save  สกัดจับนักบิน ขับรถกระบะมิตซูยิชิ แคป ทะเบียน 3 ฒห 9613 ขนยาบ้า Y1 จำนวน 3,182,000 เม็ด จับได้ที่ บ้านท่าหลุมแก้ว อ.ท่าอุเทน จ.นครพรม ค่าประมาณจ้าง 5 แสนบาท




ภาพ/ข่าว : ธเนศ บุญโท


-------------------------------------
เว็ปไซต์นี้จดทะเบียนอิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทะเบียนพาณิชย์


-----------------------------------------------------


เทศบาลนครขอนแก่น เปิดอบรมโครงการฝึกซ้อมดับเพลิงและอพยพหนีไฟในชุมชน 4 เขต ประจำปีงบประมาณ 2568 ชุมชนโนนทัน 6

สยามไทยแลนด์ นิวส์ (ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)

เทศบาลนครขอนแก่น เปิดอบรมโครงการฝึกซ้อมดับเพลิงและอพยพหนีไฟในชุมชน 4 เขต ประจำปีงบประมาณ 2568 ชุมชนโนนทัน 6


วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 เวลา 10.00 น. ณ ศาลาชุมชนโนนทัน 6 เทศบาลนครขอนแก่น นายวิทยา ภูโยสาร ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรี มอบหมายให้ นางเพ็ญศรี เพนทิลเล๋ะ รองปลัดเทศบาล เป็นประธานเปิดอบรมโครงการฝึกซ้อมดับเพลิงและอพยพหนีไฟในชุมชน 4 เขต ประจำปีงบประมาณ 2568 ชุมชนโนนทัน 6 โดยมี นางมันฑิกา ไชยพรหม หัวหน้าสำนักปลัดเทศบาล,นายสมชาย ศรีสุข
ประธานประสานงานศูนย์ อปพร. เทศบาลนครขอนแก่น , นายศักรภพน์ นครศรี ประธานชุมชนโนนทัน 6, คณะกรรมการชุมชนและพี่น้องชุมชนโนนทัน 6 และพนักงานเทศบาล เข้าร่วมการอบรม

สำหรับโครงการฝึกซ้อมดับเพลิงและอพยพหนีไฟในชุมชน 4 เขต ประจำปีงบประมาณ 2568 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 พฤษภาคม – 10 มิถุนายน 2568 รวมทั้งสิ้น 20 ชุมชน มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักและจิตสำนึกในการเตรียมความพร้อมป้องกันและระงับอัคคีภัยในชุมชน 4 เขต , เตรียมความพร้อมป้องกันและเผชิญเหตุเบื้องต้นโดยประชาชนในชุมชนก่อนที่หน่วยงานรัฐจะเข้ามาให้ความช่วยเหลือเป็นการลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น , เพื่อบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างประชาชนในชุมชน หน่วยงานสังกัดเทศบาลนครขอนแก่น และภาคีเครือข่ายการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยนำไปสู่การประสานการปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ , เพื่อศึกษาสภาพพื้นที่ สภาพแวดล้อมของชุมชน สำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ให้เกิดความคุ้นชินกับชุมชนและมีความเข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนเอง

ในการอบรมวันนี้แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงเช้า เป็นการบรรยายภาคทฤษฎี เรื่อง เครื่องดับเพลิงประเภทต่างๆ , วิธีดับเพลิงตามชนิดของเครื่องดับเพลิง , วิธีใช้อุปกรณ์การป้องกันอันตราย , การช่วยเหลือและการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย , การปฏิบัติตนเมื่ออยู่ในสถานการณ์เหตุเพลิงไหม้ , การป้องกันแหล่งกำเนิดของการติดไฟ ช่วงบ่าย เป็นการฝึกภาคปฏิบัติผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ การใช้เครื่องมือดับเพลิง , ฝึกภาคผู้ปฏิบัติอพยพหนีไฟ และประเมินผลการฝึกภาคปฏิบัติการอพยพหนีไฟ โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการเพิ่มขีดความสามารถของชุมชนในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นผู้นำชุมชน อปพร. เจ้าหน้าที่ดับเพลิง และประชาชนในพื้นที่ เพื่อร่วมกันสร้างเมืองที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน

ทั้งนี้ หากประชาชนท่านใดพบและเผชิญเหตุการณ์เดือดร้อนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น สามารถติดต่อได้ที่ สายด่วนดับเพลิง 199 ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครขอนแก่น สถานีดับเพลิงศรีจันทร์ 043-221184 / สถานีดับเพลิงเมืองเก่า 043-224625 / สถานีดับเพลิงหนองแวงตราชู 043-234583 / สถานีดับเพลิงทุ่งสร้าง 043-234581 / ศูนย์ อปพร.(ชัยพฤกษ์ ) 043-220301
                                                       


-------------------------------------
เว็ปไซต์นี้จดทะเบียนอิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทะเบียนพาณิชย์


-----------------------------------------------------

จังหวัดขอนแก่น ออกหน่วยบริการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ฯ ไตรมาสที่ 3

สยามไทยแลนด์ นิวส์ (ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)

จังหวัดขอนแก่น ออกหน่วยบริการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ฯ ไตรมาสที่ 3


วันนี้ (22 พ.ค. 68) ที่หอประชุมโรงเรียนบ้านโคกไม้งาม ตำบลศรีสุข อำเภอสีชมพู จังหวัดขอนแก่น นายศิริวัฒน์ พินิจพานิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานกิจกรรม “โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร” ประจำไตรมาส 3

โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ฯ ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 2545 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวาระสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ มีพระชนมายุครบ 50 พรรษา โดยเปิดให้บริการครั้งแรกที่จังหวัดสระบุรี และดำเนินการต่อเนื่องจวบจนปัจจุบัน มีวัตถุประสงค์หลักในการให้บริการด้านความรู้ คำปรึกษา และการแก้ไขปัญหาทางการเกษตรแก่เกษตรกรในพื้นที่ห่างไกล โดยนำผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงพื้นที่ให้บริการแบบครบวงจร

สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ จังหวัดขอนแก่นได้บูรณาการความร่วมมือกับโรงเรียนบ้านโคกไม้งาม หน่วยงานภาครัฐในระดับอำเภอและท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่อำเภอสีชมพู เพื่อสร้างเครือข่ายความรู้และการพัฒนาอาชีพให้แก่เกษตรกรอย่างยั่งยืน บรรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยความคึกคัก เกษตรกรเข้าร่วมรับบริการและแลกเปลี่ยนประสบการณ์จำนวนมาก







เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บรรณาธิการข่าวสยามไทยแลนด์ นิวส์


-------------------------------------
เว็ปไซต์นี้จดทะเบียนอิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทะเบียนพาณิชย์


-----------------------------------------------------


ประเพณีบุญบั้งไฟ ภาคอีสาน ประจำปี 2568 ต.กุดดู่ อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู

สยามไทยแลนด์ นิวส์ (ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)

ประเพณีบุญบั้งไฟ ภาคอีสาน ประจำปี 2568 ต.กุดดู่ อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู


วันนี้ทีมข่าว พาชมงานแห่ ประเพณีบุญบั้งไฟ ภาคอีสาน ตำบลกุดดู่ อำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู ประจำปี 2568 ซึ่งจัดใหญ่จัดเต็มทุกปี สวยอลังการทุกขบวน

ประเพณีบุญบั้งไฟ เป็นประเพณีหนึ่งของภาคอีสานของไทยรวมไปถึงลาว โดยมีตำนานมาจากนิทานพื้นบ้านของภาคอีสานเรื่องพระยาคันคาก เรื่องผาแดงนางไอ่ ซึ่งในนิทางพื้นบ้านดังกล่าวได้กล่าวถึง การที่ชาวบ้านได้จัดงานบุญบั้งไฟขึ้นเพื่อเป็นการบูชา พระยาแถน หรือเทพวัสสกาลเทพบุตร ซึ่ง ชาวบ้านมีความเชื่อว่า พระยาแถนมีหน้าที่คอยดูแลให้ฝนตกถูกต้องตามฤดูกาล และมีความชื่นชอบไฟเป็นอย่างมาก หากหมู่บ้านใดไม่จัดทำการจัดงานบุญบั้งไฟบูชา ฝนก็จะไม่ตกถูกต้องตามฤดูกาล อาจก่อให้เกิดภัยพิบัติกับหมู่บ้านได้ ช่วงเวลาของประเพณีบุญบั้งไฟคือเดือนหกหรือพฤษภาคมของทุกปี

ประเพณีบุญบั้งไฟมีมาแต่ครั้งไหนยังหาหลักฐานที่แน่ชัด มีข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับความเป็นมาของประเพณีบุญบั้งไฟในแง่ต่างๆ ไว้ดังนี้
ความเชื่อของชาวบ้านกับประเพณีบุญบั้งไฟ
ชาวบ้านเชื่อว่ามีโลกมนุษย์ โลกเทวดา และโลกเทวดา มนุษย์อยู่ใต้อิทธิพลของเทวดา การรำผีฟ้าเป็นตัวอย่างที่แสดงออกทางด้านการนับถือเทวดา และเรียกเทวดาว่า “แถน” เมื่อถือว่ามีแถนก็ถือว่า ฝน ฟ้า ลม เป็นอิทธิพลของแถน หากทำให้แถนโปรดปราน มนุษย์ก็จะมีความสุข ดังนั้นจึงมีพิธีบูชาแถน การจุดบั้งไฟก็อาจเป็นอีกวิธีหนึ่งที่แสดงความเคารพหรือส่งสัญญาณความภักดีไปยังแถน ชาวอีสานจำนวนมากเชื่อว่าการจุดบั้งไฟเป็นการขอฝนจากพญาแถน และมีนิทานปรัมปราเช่นนี้อยู่ทั่วไป แต่ความเชื่อนี้ยังไม่พบหลักฐานที่แน่นอน นอกจากนี้ในวรรณกรรมอีสานยังมีความเชื่ออย่างหนึ่งคือ เรื่องพญาคันคาก หรือคางคก พญาคันคากได้รบกับพญาแถนจนชนะแล้วให้พญาแถนบันดาลฝนลงมาตกยังโลกมนุษย์

เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บรรณาธิการข่าวสยามไทยแลนด์ นิวส์




-------------------------------------
เว็ปไซต์นี้จดทะเบียนอิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทะเบียนพาณิชย์


-----------------------------------------------------

ที่แรกของไทย! นักวิจัย มข.และทีมร่วมพัฒนา “ผลิตภัณฑ์หญ้าแฝกในการควบคุมไส้เดือนฝอยรากปม” เพิ่มผลผลิตช่วย “เกษตรกรปลูกพริก” สู้ศัตรูพืชแบบปลอดภัย-ไร้สารเคมี

สยามไทยแลนด์ นิวส์ (ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)

ที่แรกของไทย! นักวิจัย มข.และทีมร่วมพัฒนา “ผลิตภัณฑ์หญ้าแฝกในการควบคุมไส้เดือนฝอยรากปม” เพิ่มผลผลิตช่วย “เกษตรกรปลูกพริก” สู้ศัตรูพืชแบบปลอดภัย-ไร้สารเคมี


นอกจากสภาพอากาศที่แปรปรวนแล้ว อีกสิ่งที่เกษตรกรต้องต่อสู้เพื่อผลผลิตที่ดูแลมาโดยตลอด คือ ศัตรูพืช ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้ “ไส้เดือนฝอยรากปม” กลายเป็นศัตรูพืชที่สร้างผลกระทบให้เกษตรกรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ปลูกพริกและอาวุธหนึ่งที่เกษตรกรเลือกจะกำจัดมันคือสารเคมี แต่วันนี้นักวิจัยมหาวิทยาลัยขอนแก่นได้คิดค้น “ผลิตภัณฑ์หญ้าแฝกในการควบคุมไส้เดือนฝอยรากปม” ตัวช่วยเกษตรกรกำจัดศัตรูพืชแบบปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ


“ไส้เดือนฝอยเป็นศัตรูพืชที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่ส่งผลกระทบต่อพืชผลทางการเกษตรทำให้เกิดโรครากปมและกำลังแพร่ระบาดในหลายพื้นที่ ปัจจุบันมีการแก้ปัญหาด้วยสารเคมีนั้นพบว่ากลุ่มของยาฆ่าแมลงเป็นส่วนใหญ่ถูกนำมาใช้ แต่จะดีไหมถ้ามีผลิตภัณฑ์ที่เป็นอินทรีย์และปลอดภัยต่อทั้งเกษตรกรและสิ่งแวดล้อมมาใช้แก้ปัญหานี้แทน”


ผศ.ดร.กานต์สิรี จินดาปัณณาพัฒน์ สาขาโรคพืชวิทยา คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น บอกเล่าจุดเริ่มต้นของการเป็นที่แรกของไทยในการทำวิจัยและพัฒนา “ผลิตภัณฑ์หญ้าแฝกในการควบคุมไส้เดือนฝอยรากปม” ได้สำเร็จ พร้อมอธิบายเพิ่มเติมว่า เมื่อไส้เดือนฝอยเข้ามาโจมตีรากของพืชผลจะส่งผลให้รากเกิดเป็นปมจนไม่สามารถดูดซึมน้ำและสารอาหารได้อย่างเต็มที่จนทำให้ใบเหลืองและต้นแคระแกร็น ส่งผลต่อผลผลิตที่ลดลง กระทบรายได้เกษตรกรเป็นห่วงโซ่


“ปัจจุบันไส้เดือนฝอยรากปมที่ระบาดหนักต่อเนื่อง คือ Meloidogyne enterolobii ซึ่งเป็นชนิดที่แพร่ระบาดได้ทั้งพื้นที่เขตร้อนและเขตกึ่งร้อนเบื้องต้น พบทั้งในพริก มะเขือเทศ หัวหอม ไปจนถึงไม้ยืนต้น เช่น ฝรั่ง หม่อน และ พริกไทย โดยพบการรายงานปัญหาในหลายพื้นที่ตั้งแต่อุบลราชธานี ศรีสะเกษ รวมถึงขอนแก่นด้วยเช่นกัน ทำให้มีการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องไม่เพียงเฉพาะในประเทศไทยแต่ได้รับความสนใจไปทั่วโลก”


เมื่อเล็งเห็นถึงปัญหาแล้ว ทางทีมวิจัยภายใต้ทุน สวก.จึงได้นำ “หญ้าแฝก”หญ้าอนุรักษ์ดินและน้ำในโครงการพระราชดำริ มาศึกษาร่วมกับนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้  โดยการศึกษาสารสำคัญอย่าง Phenolic Content ในใบหญ้าแฝกเพื่อนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ ก่อนจะนำมาทดลองกับไส้เดือนฝอยซึ่งศึกษาร่วมกันกับผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เมื่อได้ผลการศึกษาวิจัยต่าง ๆ มาแล้วก็นำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยขอนแก่นและมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ


ขณะที่ รศ.ดร. ดวงกมล ศักดิ์เลิศสกุล สาขาวิชาเทคโนโลยีเภสัชกรรม  คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ผู้ร่วมวิจัย เปิดเผยว่า ในเฟสแรกทีมวิจัยได้มีการนำใบหญ้าแฝกไปต้มเพื่อนำน้ำมาฉีดพ่นให้กับพืชผลเลย แต่พบจุดอ่อนว่า ต้องใช้หญ้าแฝกและน้ำในปริมาณมาก รวมทั้งมีอุปสรรคด้านการเก็บรักษา จึงได้มีการพัฒนา “ผลิตภัณฑ์หญ้าแฝกในการควบคุมไส้เดือนฝอยรากปม สูตรที่ 1” ขึ้น                             โดยควบคุมคุณภาพและมาตรฐานตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เริ่มตั้งแต่นำใบหญ้าแฝกมาต้ม ก่อนจะระเหยน้ำออก และนำเข้าสู่เครื่องอบแห้งแบบพ่นฝอย (Spray dryer) จนนำมาสู่ผลิตภัณฑ์ในรูปแบบผงละลายน้ำที่เกษตรกรสามารถใช้งานได้เอง เพียงแค่ใช้ผลิตภัณฑ์ 1 ซอง (50 กรัม) ผสมน้ำ 1 ลิตร ฉีดพ่นโคนต้นพริกที่มีอายุมากกว่า 1 เดือนได้ถึง 200 ต้น โดยสามารถฉีดรอบรากได้ทุก 3 สัปดาห์ เพื่อกำจัดและป้องกันไส้เดือนฝอยรากปม


“งานวิจัยของเราทดสอบทั้งในระบบปฏิบัติการ ต่อด้วย Green House และลงแปลงเกษตรกรจริงที่ตำบลซำสูง เนื่องจากเป็นพื้นที่ปลูกพริกของขอนแก่น โดยทดสอบกับพื้นที่ 3 แปลงในต่างหมู่บ้าน  เพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ในดินที่แตกต่างกัน ซึ่งฟีดแบ็กจากเกษตรกรเป็นไปในทิศทางที่ดี มีผลิตผลเพิ่มมากขึ้น”


อย่างไรก็ตาม ต่อมาทีมวิจัยได้พัฒนา  “ผลิตภัณฑ์หญ้าแฝกในการควบคุมไส้เดือนฝอยรากปม สูตรที่ 2” สูตรรองก้นหลุม ชนิดผงปลดปล่อยสารช้า (Slow Release Product) โดยสามารถใช้งาน 1 ซอง (2 กรัม) ใช้รองก้นหลุมพร้อมปลูกสำหรับต้นพริก 2 ต้น หรือ 1 ช้อนชาต่อหลุมปลูก เพื่อควบคุมและป้องกันการเข้าทำลายของไส้เดือนฝอยรากปมได้ประมาณ 1 เดือนหลังการย้ายปลูก

“สำหรับสูตรที่ 2 นี้ จะช่วยยืดระยะคลุมรากให้มากขึ้น ปริมาณการใช้ลดลง ลดความถี่ในการใช้งานผลิตภัณฑ์น้อยลงเฉลี่ย 30 วันจึงจะใช้ 1 ครั้ง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนของเกษตรกรลงไปได้ด้วย ทำให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ของเรามีคุณภาพและได้รับการรับรองความปลอดภัยจากสถานสัตว์ทดลองเพื่อการวิจัย มหาวิทยาลัยนเรศวร”

อย่างไรก็ตาม ผศ.ดร.กานต์สิรี ทิ้งท้ายว่า ในอนาคต “ผลิตภัณฑ์หญ้าแฝกในการควบคุมไส้เดือนฝอยรากปม” จะมีการพัฒนาต่อยอดการใช้งานทั้งปริมาณและประสิทธิภาพในพืชผลอื่น ๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะเมล่อนที่มีผู้สนใจติดต่อเข้ามาแล้ว ขณะเดียวกันทางทีมวิจัยยังเล็งเห็นถึงโอกาสในการพัฒนาไปสู่ระดับอุตสาหกรรมเพื่อให้เกษตรกรมีผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยทั้งสำหรับผู้ใช้ พืชผล และสิ่งแวดล้อมที่เข้าถึงได้ทั้งในด้านปริมาณและราคาต่อไปในอนาคต สำหรับผู้ที่สนใจใช้งานหรือร่วมพัฒนาในระดับอุตสาหกรรมสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ผศ.ดร.กานต์สิรี จินดาปัณณาพัฒน์ 043-202-360 หรือ Kansji@kku.ac.th


ข่าว : ผานิต ฆาตนาค
ภาพ   :  สุกฤษฎิ์ สีฤทธิ์ นักศึกษาฝึกงานสาขา คอมพิวเตอร์กราฟิก เกมและอนิเมชัน วิทยาลัยเทคโนโลยีขอนแก่น




-------------------------------------
เว็ปไซต์นี้จดทะเบียนอิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทะเบียนพาณิชย์


-----------------------------------------------------