• KSL Group

    บริษัท น้ำตาล ขอนแก่น จำกัด (มหาชน)

วันอังคารที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ภูตะคา ชัยเชาวรัตน์ รองเลขาธิการพรรคพลังพลเมืองไทย "ผมอยากจะเปลี่ยนภาระให้เป็นพลัง"

สยามไทยแลนด์ นิวส์ (ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)

ภูตะคา ชัยเชาวรัตน์ รองเลขาธิการพรรคพลังพลเมืองไทย "ผมอยากจะเปลี่ยนภาระให้เป็นพลัง"


           คำสอนในพระพุทธศาสนาที่เกี่ยวเนื่องด้วยกรรมมีมากมาย บ้างก็ว่าคนเรามีกรรมดีกรรมชั่วติดตัวมาตั้งแต่ยังไม่เกิด ใครมีกรรมดีมากก็ได้เกิดมาดี ใครมีกรรมชั่วมากก็เกิดมาลำบาก บางคนกรรมดีส่งให้เกิดมาในครอบครัวที่ฐานะดี แต่จู่ๆ กรรมชั่วตามมาทันก็ต้องเผชิญกับวิบากกรรม หลายคนคิดไม่ได้ปลงไม่ตกก็เหมือนกับตกนรกทั้งเป็น เพราะมัวหมกหมุ่นกับวิบากกรรม แต่ก็มีไม่น้อยที่คิดได้ปลงตกเข้าใจถึงวิบากกรรมที่ได้รับ มองว่าเป็นการเตือนให้รู้ว่าจะต้องสร้างสมกรรมดีเข้าธนาคารบุญเพื่อให้ชีวิตในอนาคตปลอดโปร่งราบรื่น
           ภูตะคา ชัยเชาวรัตน์ หรือ กอล์ฟ เป็นหนึ่งในหลายคนที่เข้าใจคำว่ากรรมตามทัน การประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนต้องกลายเป็นมนุษย์ล้อ ทำให้เขาคิดทบทวนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับชีวิต ในช่วงปีแรกที่รักษาตัวเขาคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะตายอย่างไรดีถึงจะพ้นกรรม เขาคิดทบทวนจนเข้าใจว่า เมื่อมีกรรมเป็นสมบัติตัวโดยไม่สามารถจะลบล้างได้ ต่อให้ตายไปก็หนีกรรมไม่พ้น
         

             หลังผ่านอุบัติเหตุ 3 ปี เขาก็ตัดสินใจว่า ชีวิตที่เหลือจะมุ่งสร้างแต่กรรมดีเพื่อผลักดันให้กรรมชั่วที่เขาชดใช้ไปแล้วส่วนหนึ่งถอยห่างออกไป
             เมื่อปรับตัวปรับใจเป็นมนุษย์ล้อได้แล้ว กอล์ฟก็เริ่มกลับมาทำธุรกิจกับเพื่อนๆแต่ทุกรายได้ที่ได้รับ เขาจะกันเอาไว้ 5% เพื่อเป็นทุนทำการกุศลหลากหลายรูปแบบ กิจกรรมการกุศลของเขาส่วนใหญ่เป็นการปิดทองหลังพระ สนับสนุนเพื่อนๆที่ดำเนินกิจกรรมการกุศล จนเมื่อปี 2555 ก็ได้พบ สมศักดิ์ ศรีเพชร หรือ เค เยาวราช นักกิจกรรมจิตอาสาที่ตั้งหน้าตอบแทนสังคมเพื่อชดใช้บุญคุณข้าว 1 กล่อง กับเงิน 20 บาทที่เขาเคยได้รับจากบุคคลนิรนามที่มอบให้ตอนเขานอนหลับที่ป้ายรถเมล์
           

              กว่า 5 ปีมาแล้วที่ เคเป็นกองหน้า กอล์ฟเป็นกองหนุนร่วมกันทำกิจกรรมจิตอาสาช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส โดยครั้งล่าสุด เค ก็นำรถไปจอดปรุงอาหารใกล้ถ้ำหลวงนางนอนสนับสนุนการกู้ภัยทีมหมูป่า
              ในช่วงปีที่ผ่านมา กอล์ฟซึ่งมีพ่อเป็นนักการเมืองใหญ่ระดับประเทศก็มองว่า การเลือกตั้งที่จะมาถึง เขาน่าจะได้มีส่วนร่วมเพื่อสร้างโอกาสที่ดีในการช่วยเหลือเพื่อนร่วมชะตากรรมคนพิการ เขาจึงเข้าร่วมกับพรรคพลังพลเมืองไทยที่คุณพ่อเป็นประธานที่ปรึกษา มีคุณอาเป็นหัวหน้าพรรคและเจ้าตัวก็ได้นั่งในตำแหน่งรองเลขาธิการพรรค
               การลงสนามการเมืองทั้งที่ไร้ประสบการณ์ของกอล์ฟนั้น เขามีเป้าหมายหลักเพียงเป้าหมายเดียว นั่นคือ การลดความเหลื่อมล้ำระหว่างผู้พิการกับคนปกติ
               "ตอนนี้ยังไม่เป็นนโยบายพรรค อาจจะไม่ได้เป็นด้วยซ้ำไป แต่ผมตั้งใจจะทำงานเพื่อคนพิการทั่วประเทศที่มีมากกว่า 1.8 ล้านคน ไม่ว่าผมจะได้รับเลือกตั้งหรือไม่ เลือกแล้วผมจะได้มีบทบาททางการเมืองหรือเปล่าผมก็จะทำ ผมจะพยายามเรียกร้องผลักดันให้รัฐจัดสวัสดิการสังคมเพื่อผู้พิการให้มากขึ้น" เขายืนยันในการสนทนา
           

                 กอล์ฟแยกลำดับการทำงานไว้ว่า เขาจะผลักดันสวัสดิการของรัฐในส่วนที่เป็นบริการสาธารณูปโภคกับสารธารณสุขเป็นอันดับแรก การขนส่งมวลชนจะต้องเป็นอารยสถาปัตย์ที่เอื้อกับผู้พิ
การให้มากขึ้น โดยเฉพาะรถไฟฟ้าทั้งบนดินและใต้ดิน ในเรื่องการรักษาพยาบาลผู้พิการต้องได้รับสิทธิ
มากขึ้น เครื่องใช้ไม้สอยที่จำเป็นสำหรับผู้พิการ อย่างเช่น ผ้าอ้อม สายยางและอีกหลายอย่างจะต้องฟรี
               "สวัสดิการเหล่านี้ไม่ได้ให้แต่กับผู้พิการเท่านั้น แต่ผมอยากให้ขยายไปถึงผู้ชราด้วย เพราะคนแก่ก็ไม่ได้ต่างจากคนพิการเท่าไหร่ไปไหนมาไหนไม่สะดวก ผมกับพี่กฤษณะ ละไลเคยคุยกันถึงเรื่องนี้ พี่กฤษณะบอกว่า การทำอารยสถาปัตย์จะได้ประโยชน์กับทั้งผู้พิการ คนชราและเด็ก ผมเห็นด้วยและสนับสนุนพี่เขามาตลอด ส่วนเรื่องของใช้นั้น ผมถือว่านี่เป็นความจำเป็นของคนพิการและผู้ชรา เป็นค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง เป็นภาระของครอบครัว เราจึงควรปลดภาระให้กับครอบครัวคนพิการ" กอล์ฟชี้ให้เห็นถึงเหตุที่จัดเรื่องนี้เป็นความสำคัญลำดับต้น
                ต่อมาคือการสร้างอาชีพให้กับผู้พิการ กอล์ฟบอกว่ามีผู้พิการจำนวนมากที่ยังสามารถทำงานได้ รัฐจึงควรให้โอกาส จัดให้เขาเหล่านั้นได้ทำงานตามความเหมาะสม รายได้ที่ได้มาของแต่ละคนอาจไม่มากนัก แต่จะได้ประโยชน์มากทางจิตใจ เพราะจะช่วยให้ผู้พิการรู้ว่า เขายังมีประโยชน์มีความสำคัญกับหน่วยงานการผลิตของสังคม เขาเชื่อว่าจะต้องมีผู้พิการส่วนหนึ่งปลดตนเองออกจากการเป็นภาระใน
สังคม
             

                    อีกเป้าหมายหนึงของกอล์ฟคือ การสร้างบ้านพักผู้พิการ เขายอมรับว่าแนวทางนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ แต่เขาเชื่อว่ามีทางเป็นไปได้มาก เพียงแต่ต้องใช้เวลา
                  "ผมทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ มีเพื่อนในวงการนี้พอสมควร ผมตั้งใจจะหาแนวร่วม ในเบื้องต้นอาจเสนอแนวทางให้ภาคเอกชนสร้างบ้านพักคนพิการโดยรัฐให้การสนับสนุนค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่ง
อีกส่วนหนึ่งเก็บค่าบริการจากครอบครัวผู้พิการในอัตราที่รับกันได้ อีกกลุ่มหนึ่งเป็นสวัสดิการที่รัฐสร้างและให้การสนับสนุนค่าใช้จ่ายทั้งหมด" กอล์ฟขยายความ
                  สำหรับเป้าหมายสูงสุดนั้นกอล์ฟบอกว่า "ผมต้องการที่จะช่วยเหลือครอบครัวผู้พิการ ต้องการเปลี่ยนภาระให้เป็นพลัง ทุกครอบครัวที่มีผู้พิการจะต้องมีหนึ่งหรือสองคนที่คอยดูแลช่วยเหลือผู้พิการ ไม่สามารถจะทำงานการอื่นใดได้ ซึ่งเป็นความสูญเสียกำลังการผลิตของประเทศ ปัจจุบันเรามีผู้พิการทั่วประเทศกว่า 1.8 ล้านคน ถ้าคิดสัดส่วน 1 ต่อ 1 ก็เท่ากับว่าเราต้องสูญเสียคนปกติไปกว่า 1.8 ล้านคน เพื่อดูแลผู้พิการ นี่คือพลังที่ต้องแบกภาระ ถ้าหากเราสามารถลดภาระให้เขาเหล่านั้นได้ เราก็จะมีพลังมาร่วมกันพัฒนาประเทศเกือบ 2 ล้านคน
                   นี่คือเป้าหมายของหนุ่มมนุษย์ล้อที่เข้าใจในหลักธรรม เข้าใจในกรรมของเพื่อนผู้พิการและต้องการที่จะช่วยเหลือปลดภาระเพื่อเปลี่ยนให้เป็นพลัง
                   ถ้าจะพูดว่า เขาคือความหวังของผู้พิการก็คงจะได้!!!!!



Cr.วารสารสมาคมช่างภาพสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย
.......................................................................................
เกรียงไกร อนุรักษ์เจริญพร
บก.สยามไทยแลนด์ นิวส์
(ทุกทิศ ทั่วไทย ข่าวสารกว้างไกล คุณธรรมนำใจประชาชน)






-------------------------------------
เว็ปไซต์นี้จดทะเบียนอิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทะเบียนพาณิชย์

-----------------------------------------------------

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น